นางเพนนี หว่อง รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศออสเตรเลีย จะเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งของจีนในวันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค.) นับเป็นนักการทูตระดับสูงสุดของออสเตรเลียที่เดินทางเยือนประเทศจีน นับตั้งแต่ปี 2561 และเป็นสัญญาณสำคัญที่แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองชาติ
รัฐบาลออสเตรเลียแถลงการณ์ในวันนี้ว่า การเดินทางเยือนจีน 2 วัน ตรงกับโอกาสครบรอบ 50 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างออสเตรเลียและจีน โดยนางหว่องมีกำหนดเข้าพบปะนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของจีน
รัฐบาลออสเตรเลียเผยว่า ออสเตรเลียคาดหวังความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับจีน โดยจะให้ความร่วมมือในด้านที่ทำได้ จะแสดงความไม่เห็นด้วยในประเด็นที่จำเป็น และจะมีส่วนร่วมในสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ของชาติ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศออสเตรเลียไม่ได้เดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2561 และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียกับจีนก็ย่ำแย่ลง นอกจากนี้แล้ว นายสกอตต์ มอร์ริสัน อดีตนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียก็ไม่เคยเดินทางเยือนจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญที่สุด ในช่วงระยะเวลานานกว่า 3 ปีที่อยู่ในตำแหน่ง
ในช่วงปลายปี 2561 ออสเตรเลียเป็นชาติแรกที่แบนไม่ให้บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ของจีนเข้าร่วมโครงการพัฒนาโครงข่าย 5G ของออสเตรเลีย ส่งผลให้ประเทศอื่น ๆ อีกหลายชาติร่วมแบนตามไปด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น การที่นายมอร์ริสันเรียกร้องให้ทั่วโลกร่วมกันตรวจสอบต้นตอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อเดือนเม.ย. 2563 ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียกับจีนดิ่งลงเหว นำไปสู่การคว่ำบาตรทางการค้าและการส่งออกของออสเตรเลียในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นายแอนโทนี อัลบาเนซี จากพรรคแรงงานชนะการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของออสเตรเลียเมื่อเดือนพ.ค. 2565 ก็ได้มีการพยายามรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับจีนอีกครั้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ธ.ค. 65)
Tags: ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ, จีน, ออสเตรเลีย, เพนนี หว่อง