จีเอเบิล ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 175 ล้านหุ้น เข้า SET ลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่อง-คืนเงินกู้

บมจ.จีเอเบิล (G-Able) ยื่นไฟลิ่งเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 175 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วหลัง IPO และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) โดยมี บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

บริษัทจะนำเงินจากการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งได้ไปใช้ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพเพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มบริษัท และนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมของกลุ่มบริษัท รวมถึงนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ

G-Able ประกอบธุรกิจให้บริการโซลูชั่นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล มุ่งเน้นกลุ่มโซลูชั่นระดับองค์กร (Enterprise Solution and Services) ที่ครอบคลุมเทคโนโลยีที่สำคัญในโลกยุคดิจิทัล ประกอบด้วย 1.โซลูชั่นด้านระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security Solution) 2.โซลูชั่นด้านระบบคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ (Cloud and Data Center Modernization Solution) 3.โซลูชั่นด้านระบบจัดการข้อมูลและการวิเคราะห์ (Data and Analytics Solution) 4.โซลูชั่นด้านธุรกิจดิจิทัล (Digital Business and Application Solution) 5.โซลูชั่นด้านการบริหารจัดการระบบสารสนเทศ (Managed Tech Services Solution

บริษัทย่อย 6 บริษัท ได้แก่

– บริษัท เฟิร์ส ลอจิก จำกัด (FLG) ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศจาก Oracle Corporation และ Veritas Technologies LLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก

– บริษัท เอ็มเวิร์จ จำกัด (MVG) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับบริหารจัดการพื้นที่เช่าและโซลูชั่นบริหารระบบงานบน Microsoft Power platform

– บริษัท เดอะ คอมมูนิเคชั่น โซลูชั่น จำกัด (TCS) ผู้ให้บริการโซลูชั่นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลโดยปัจจุบัน TCS ให้บริการเฉพาะกลุ่มกับลูกค้าที่ TCS มีการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ขายไว้เท่านั้น

– บริษัท อินไซท์เอรา จำกัด (INSE) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีเพื่อการตลาดดิจิทัล (Marketing Technology) แบบครบวงจร

– บริษัท เบลนเดต้า จำกัด (BLD) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับจัดการข้อมูล Big Data

– บริษัท ไซเบอร์จีนิคส์ จำกัด (CGN) ผู้ให้บริการด้านระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์

บริษัทมีทุนจดทะเบียน 707.50 ล้านบาท เป็นทุนเรียกชำระแล้ว 525 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 525 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โครงสร้างผู้ถือหุ้นล่าสุด มีกลุ่มลิ่วเจริญ ถือหุ้นใหญ่ 28.68% หลัง IPO และเสนอขายหุ้นภายใต้ ESOP จะลดสัดส่วนลงเหลือ 21.28% กลุ่มเอื้อวัฒนสกุล 26.63% ลดเหลือ 19.76% กลุ่มชันซื่อ 21.65% จะลดเหลือ 16.06% กลุ่มพันธุมวนิช 15.08% จะลดเหลือ 11.19%

ผลประกอบการปี 62-64 บริษัทมีรายได้ 4,941.71 ล้านบาท 5,176.62 ล้านบาท 4,939.07 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิ 300.95 ล้านบาท 165.92 ล้านบาท 244.84 ล้านบาท ตามลำดับ อัตรากำไรสุทธิ 6.00% 3.18% และ 4.90% ตามลำดับ

งวด 9 เดือนแรกของปี 65 บริษัทมีรายได้ 3,420.19 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 140.70 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 3,525.80 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ 119.75 ล้านบาท

ณ 30 ก.ย.65 มีสินทรัพย์รวม 4,269.28 ล้านบาท หนี้สินรวม 2,819.81 ล้านบาท และ ส่วนผู้ถือหุ้น 1,809.46 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ธ.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top