รัฐบาลสหรัฐดำเนินการขึ้นบัญชีดำบริษัทหยางจื่อ เมมโมรี เทคโนโลยีส์ โค, เซี่ยงไฮ้ ไมโคร อิเล็กทรอนิกส์ อีควิปเมนต์ กรุ๊ป โค และบริษัทเทคโนโลยีจีนอื่น ๆ อีกหลายสิบแห่ง รวมทั้งหมดคือ 36 แห่ง ซึ่งถือเป็นการยกระดับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลก
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐกำหนดให้บริษัทเหล่านี้อยู่ในบัญชีดำ (Entity List) ซึ่งหมายความว่าบุคคลใดก็ตามที่มีความประสงค์จะจัดส่งเทคโนโลยีสหรัฐให้กับบริษัทเหล่านี้จะต้องได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐเสียก่อน แต่การขอใบอนุญาตดังกล่าวนั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นเรื่องยาก
บริษัทที่โดนหางเลขไปด้วยคราวนี้ได้รวมถึง เผิงซิ่นเหว่ย ไอซี แมนูแฟกเจอริง โค หรือ PXW โดยบริษัทชิปมากประสบการณ์รายนี้บริหารโดยอดีตผู้บริหารหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ โค และกำลังสร้างโรงงานใกล้กับสำนักงานใหญ่ โดยมีหัวเว่ยเป็นลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะรับซื้อชิปทั้งหมดจากโรงงานดังกล่าว หลังจากที่หัวเว่ยเผชิญมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐไปแล้วก่อนหน้านี้
มาตรการจำกัดระลอกล่าสุดเป็นส่วนหนึ่งในการจำกัดจีนจากการเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตชิปล้ำสมัยและปัญญาประดิษฐ์ เนื่องจากสหรัฐต้องการหลีกเลี่ยงความข้องเกี่ยวกับการทหารจีน
นายอลัน เอสเตเวซ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ฝ่ายอุตสาหกรรมและความมั่นคงระบุในแถลงการณ์ว่า วัตถุประสงค์ในการดำเนินการครั้งนี้เป็นไปเพื่อจำกัดความสามารถของจีนในการใช้ประโยชน์จาก AI รวมถึงคอมพิวเตอร์ขั้นสูงและเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์อื่น ๆ ในการนำไปพัฒนาการทหารและละเมิดสิทธิมนุษยชน
หยางจื่อ เมมโมรีและเซี่ยงไฮ้ ไมโครถูกขึ้นบัญชีดำจากความวิตกกังวลว่าบริษัทเหล่านี้จะทำงานกับบริษัทต่าง ๆ ที่สหรัฐกำหนดว่ามีความเสี่ยงต่อความมั่นคงแห่งชาติหรือสนับสนุนการกดขี่ของรัฐบาลจีน เช่น หัวเว่ยและหางโจว ฮิกวิชัน ดิจิทัล เทคโนโลยี โค
อนึ่ง หยางจื่อ เมมโมรีและเซี่ยงไฮ้ ไมโครถือเป็นปัจจัยสำคัญในความพยายามของจีนในการสร้างธุรกิจชิปภายในประเทศ เพื่อเลิกพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ธ.ค. 65)
Tags: บัญชีดำ, หยางจื่อ เมมโมรี, อลัน เอสเตเวซ, เซี่ยงไฮ้ ไมโคร, เทคโนโลยี