นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา ได้ออกประกาศแจ้งผลการไต่สวนชั้นต้น เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.65 กรณีการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (Anti-Circumvention: AC) สินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ ที่ส่งออกจาก 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา และไทย โดยระบุว่าผู้ส่งออกสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ของไทย มีการนำเข้าชิ้นส่วนจากจีนมาประกอบเป็นสินค้าสำเร็จรูป แล้วส่งออกไปสหรัฐฯ เพื่อหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping: AD) และมาตรการตอบโต้การอุดหนุน (Countervailing Duty: CVD) ที่สหรัฐฯ ใช้บังคับกับสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ที่ส่งออกจากจีน
ทั้งนี้ แม้จะมีการประกาศผลการไต่สวนชั้นต้นว่าไทยมีพฤติกรรมการหลบเลี่ยงอากรดังกล่าว แต่ผู้ส่งออกไทย ยังคงสามารถส่งออกสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ ไปยังสหรัฐฯ ได้ตามปกติ โดยไม่ต้องชำระอากรเพิ่มเติมใดๆ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้ออกประกาศยกเว้นการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ ที่ส่งออกจาก 4 ประเทศดังกล่าวเป็นระยะเวลา 24 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 65 ถึงวันที่ 6 มิ.ย. 67
นายรณรงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ติดตามความคืบหน้ากรณีการเปิดไต่สวน AC สินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ที่ส่งออกจาก 4 ประเทศดังกล่าว และแจ้งผู้ส่งออกไทยให้ทราบความคืบหน้าต่างๆ ทันทีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้ดำเนินการเชิงรุก เพื่อส่งเสริมและปกป้องการส่งออกสินค้าของไทยตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ โดยเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.65 กรมฯ ได้มีหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เพื่อยื่นคัดค้านผลการไต่สวนดังกล่าวแล้ว
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.65 กรมฯ ได้ร่วมหารือกับผู้ส่งออกไทยเกี่ยวกับผลการไต่สวนดังกล่าว เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ส่งออกไทยในการโต้แย้งต่อผลการไต่สวนฯ ซึ่งกรมฯ ได้เน้นย้ำให้ผู้ส่งออกไทยให้ความร่วมมือในกระบวนการไต่สวนของสหรัฐฯ โดยจัดทำหนังสือโต้แย้งผลการไต่สวนดังกล่าว เพื่อรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ เพราะกระบวนการไต่สวน AC ของสหรัฐฯ จะเป็นการไต่สวนตามข้อเท็จจริงของผู้ส่งออกเพียงบางรายที่สหรัฐฯ ได้เลือกให้เป็นตัวแทนในการตอบแบบสอบถาม ซึ่งกรณีนี้สหรัฐฯ ได้เลือกผู้ส่งออกไทย 2 ราย คิดเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยจากจำนวนผู้ผลิตทั้งหมดของไทย
“ดังนั้น กรมฯ จึงอยากให้บริษัทที่เป็นผู้แทนในการตอบแบบสอบถาม ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลในกระบวนการไต่สวนอย่างเต็มที่ และให้ความร่วมมือในการประสานให้ข่าวสารแก่กรมฯ ทราบ เพื่อช่วยในการติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะผลการไต่สวนจะส่งผลต่อทุกบริษัทในอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ในไทย” นายรณรงค์ ระบุ
สำหรับกระบวนการไต่สวนต่อไป จะเป็นการพิสูจน์ความถูกต้องของข้อมูล ตามแบบสอบถามที่ผู้ส่งออกไทยได้ชี้แจงต่อสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ จะเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง ณ สถานประกอบการของบริษัทที่ประเทศไทย ก่อนจะสรุปผลการไต่สวนและกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะประกาศผลการไต่สวนชั้นที่สุด ภายในวันที่ 1 พ.ค. 66
“กรมฯ เห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ ที่เติบโตตามความต้องการของตลาดภายในประเทศ ส่วนตลาดต่างประเทศก็มีการเติบโตที่สูงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยต้องให้ความสำคัญกับกฎระเบียบการนำเข้า-ส่งออกสินค้าของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกไปสหรัฐฯ ที่มีเงื่อนไขรวมถึงกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด เช่น กฎถิ่นกำเนิดสินค้า ซึ่งกรมฯ พร้อมที่จะสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ให้สามารถผลิตสินค้าและส่งออกสู่ตลาดสหรัฐฯ ได้อย่างถูกต้องตามกฎระเบียบที่สหรัฐฯ กำหนด” นายรณรงค์ กล่าว
ทั้งนี้ ไทยมีการส่งออกสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 (ม.ค. – ต.ค.) ไทยส่งออกสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ไปยังสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่า 940.16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2564 ที่มีมูลค่าส่งออก 911.73 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหรัฐฯ เวียดนาม อินเดีย ไต้หวัน ตุรกี และจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 65)
Tags: กระทรวงพาณิชย์, รณรงค์ พูลพิพัฒน์, ส่งออก, เซลล์แสงอาทิตย์, โซลาร์เซลล์