กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (15 ธ.ค.) ว่า ยอดนำเข้าเดือนพ.ย.ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้นแซงหน้ายอดการส่งออก ส่งผลให้ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าติดต่อกันเป็นเดือนที่ 16 ขณะที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงส่งผลกระทบต่อการค้าของญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจากกระทรวงการคลังระบุว่า ยอดนำเข้าเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 30.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 27% หลังจากที่พุ่งขึ้น 53.5% ในเดือนต.ค. เนื่องจากการนำเข้าน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ปรับตัวสูงขึ้น
ขณะที่ยอดส่งออกเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 20% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ และชะลอตัวลงจากเดือนต.ค.ที่ขยายตัว 25.3% ส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้า 2 ล้านล้านเยน (1.476 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ คาดว่าการชะลอตัวของยอดส่งออกไปยังจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่สุดของญี่ปุ่นนั้น จะสร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในอุตสาหกรรมการค้าและเศรษฐกิจโลกเป็นวงกว้าง โดยจีนเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
รายงานระบุว่า ยอดส่งออกจากญี่ปุ่นไปยังประเทศจีนในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 3.5% ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนต.ค.ที่พุ่งขึ้น 7.7% โดยถูกกดดันจากการชะลอตัวลงของอุปสงค์เครื่องจักรสำหรับการผลิตชิปและชิ้นส่วนรถยนต์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 65)
Tags: ขาดดุลการค้า, ญี่ปุ่น, ส่งออก