กูรูเตือน “ซานต้า แรลลี่” อาจไม่มาตามนัด หาก CPI พุ่งเกินคาด

นายคริส ซาร์คาเรลลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุนของบริษัท Independent Advisor Alliance กล่าวว่า ปรากฎการณ์ “ซานต้า แรลลี่” ในปีนี้จะขึ้นอยู่กับตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันนี้

“เฟดมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ แต่แนวโน้มการเกิด ‘ซานต้า แรลลี่’ จะขึ้นอยู่กับว่าตัวเลข CPI จะออกมาต่ำกว่าคาดหรือไม่” นายซาร์คาเรลลีกล่าว

ทั้งนี้ ปรากฎการณ์ “ซานต้า แรลลี่” มักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่

จากการรวบรวมสถิติการปรับตัวของตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วง 7 วันของซานต้า แรลลี่ พบว่า ดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดตลาดในแดนบวกถึง 78% นับตั้งแต่ปี 2471

ทางด้านแบงก์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยว่า สถิติในอดีตบ่งชี้ว่า เดือนธ.ค.เป็นเดือนที่ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นร้อนแรงมากที่สุดของปี

ข้อมูลระบุว่า ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นเฉลี่ย 2.3% ในเดือนธ.ค.นับตั้งแต่ปี 2479 และดัชนีปรับตัวเป็นบวกในเดือนธ.ค.คิดเป็นสัดส่วน 79% นับตั้งแต่ปีดังกล่าว

กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลข CPI ดังกล่าวจะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว

ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 7.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 7.7% ในเดือนต.ค.

เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. จากระดับ 0.4% ในเดือนต.ค.

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 6.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 6.3% ในเดือนต.ค.

เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนต.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ธ.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top