บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองกรอบดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (12-16 ธ.ค.) มีแนวรับที่ 1,610 และ 1,600 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,640 และ 1,650 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (13-14 ธ.ค.) มาตรการของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Flow) ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. รวมถึงดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนธ.ค. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม ECB และ BOE ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ย. ของญี่ปุ่น ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย.ของยูโรโซน ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนธ.ค. ของญี่ปุ่น และยูโรโซน ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน เช่น ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ SET Index ปรับตัวลงตั้งแต่ต้นสัปดาห์ สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีปัจจัยกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจโลก การเลื่อนการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงแรงขายลดเสี่ยงของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศก่อนวันหยุดยาวและระหว่างรอติดตามผลการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ดี หุ้นไทยลดช่วงลบได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ส่วนหุ้นกลุ่มที่กดดัน SET Index ในสัปดาห์นี้หลักๆ ได้แก่ เทคโนโลยี แบงก์ และพลังงาน โดยในส่วนของหุ้นพลังงานมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก
ในวันศุกร์ (9 ธ.ค.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,623.13 จุด ลดลง 1.13% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 52,970.99 ล้านบาท ลดลง 13.15% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.18% มาปิดที่ระดับ 581.37 จุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ธ.ค. 65)
Tags: SET, SET Index, ตลาดหุ้นไทย, บล.กสิกรไทย, หุ้นไทย