เงินบาทเปิด 34.70 แข็งค่าต่อเนื่อง ตลาดรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ-ประชุมเฟดสัปดาห์หน้า

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.70 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.79 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทแข็งค่า เนื่องจากเมื่อคืนนี้จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาด มองว่าความร้อนแรงของตลาดแรงงานในสหรัฐฯ เริ่มซาลง ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้ดอลลาร์ อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.60 – 34.90 บาท/ดอลลาร์ สำหรับคืนนี้ต้อง ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ ส่วนภาพใหญ่ตลาดรอดูดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ และ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในสัปดาห์หน้า

THAI BAHT FIX 3M (8 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.08634% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.55354%

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ 136.13 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 136.95 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ 1.0578 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0493 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.799 บาท/ดอลลาร์

– “3 แบงก์” เดินหน้า ขึ้นดอกเบี้ย หลัง กนง.ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ต่อเนื่อง 3 ครั้งติดต่อกัน “ธนาคารกรุงไทย” ห่วงผู้กู้ รายย่อย-กลุ่มเปราะบาง ปรับขึ้นดอกเบี้ย ต่ำกว่าตลาดที่ 0.15% พร้อมจับมือกระทรวงดีอี แจ้งเตือนหลอกลวงผ่านออนไลน์ เจาะลูกค้า เป๋าตัง กว่า40 ล้านคน เพื่อลดถูกมิจฉาชีพหลอกลวง

– ศูนย์วิจัยฯกรุงไทย ให้จับตาค่าไฟงวดหน้าขยับแน่นอน ดันเงินเฟ้อปี’66 พุ่งต่อเนื่อง เหตุต้นทุนภาคธุรกิจโดนซ้ำเติมรอบ ทิศ หนีไม่พ้นขึ้นราคาสินค้า ผลักภาระประชาชน

– หอการค้าคาดปีใหม่เศรษฐกิจกระเตื้อง เงินสะพัดราว 1 แสนล้านบาท ช่วงเลือกตั้งเงินเข้าระบบกว่า 8 หมื่นล้านบาท รวมทั้งนักท่องเที่ยวทะลักเข้าไทย 10 ล้านคน หลังคลายกังวลโควิดระบาด ขณะที่ “ตร.ทล.” สั่งตั้งด่านตรวจจับความเร็ว-เมาแล้วขับ เหตุคลื่นมหาชนแห่เดินทางฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คาดรถหนาแน่น 29-30 ธ.ค. แจง ตัดคะแนนคนผิดวินัย จร. ใช้ตั้งแต่ปี 42 แก้ไขใหม่ปี 62

– กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายใน สัปดาห์ที่แล้ว และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

– นักวิเคราะห์จากบริษัทแอลพีแอล ไฟแนนเชียลกล่าวว่า นักลงทุนมองว่าการเพิ่มขึ้นของตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานบ่งชี้ ว่าภาวะเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มคลายความร้อนแรง ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักของเฟด และอาจเป็นแรงหนุนให้เฟด ผ่อนคันเร่งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

– ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (8 ธ. ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (8 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นัก ลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ รวมทั้งการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

– ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐวันนี้ จะมีการรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนธ.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค.

– ในสัปดาห์หน้า ธนาคารกลางชั้นนำของโลก 3 แห่งจะจัดการประชุมนโยบายการเงินซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมในวันที่ 13-14 ธ.ค. ส่วนธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลาง อังกฤษ (BoE) จะจัดการประชุมตรงกันในวันที่ 15 ธ.ค.

นักวิเคราะห์และตลาดการเงินต่างคาดการณ์ว่า เฟด, ECB และ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุม รอบนี้

– ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 13-14 ธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ รวมทั้งถ้อย แถลงของนายพาวเวล ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566

นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมรอบนี้ หลังจากปรับขึ้น 0.75% เป็นจำนวน 4 ครั้งติดต่อกัน ขณะที่นายพาวเวลส่งสัญญาณว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ธ.ค. 65)

Tags: ,
Back to Top