นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ แกว่งขาขึ้นรับสัญญาณเชิงบวกหลังตัวเลข PPI สหรัฐผ่านจุดพีค หนุนประชุมเฟดสัปดาห์หน้าขึ้นดอกเบี้ยในอัตราชะลอลง พร้อมให้แนวต้าน 1,635 จุด และ แนวรับ 1,615 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวทิศทางขาขึ้น รับสัญญาณเชิงบวกจากคาดการณ์ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐเดือน พ.ย. ที่คาดว่าจะออกมา 7.2% ลดลงสอดคล้องกับทิศทางเงินเฟ้อที่ได้ผ่านจุดพีคไปแล้ว จะเป็นปัจจัยหนุนให้การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมไปถึง ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่มีขึ้นในสัปดาห์หน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอตัวลดลง
โดยปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ขณะที่เงินบาทจะกลับมาแข็งค่าขึ้น เป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้นไทย
พร้อมให้แนวต้าน 1,635 จุด และ แนวรับ 1,615 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (8 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,781.48 จุด เพิ่มขึ้น 183.56 จุด หรือ +0.55%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,963.51 จุด เพิ่มขึ้น 29.59 จุด หรือ +0.75% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,082.00 จุด เพิ่มขึ้น 123.45 จุด หรือ +1.13%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,633.96 จุด เพิ่มขึ้น 59.53 จุด หรือ +0.22%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,484.23 จุด เพิ่มขึ้น 34 จุด หรือ +0.17% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,197.12 จุด ลดลง 0.23 จุด หรือ -0.01%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 ธ.ค.65) 1,620.49 จุด ลดลง 1.79 จุด, -0.11%
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,206.33 ลบ.เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.65
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. (8 ธ.ค.) ลดลง 55 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 71.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. 2564
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 ธ.ค.) อยู่ที่ 6.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 34.70 แข็งค่าต่อเนื่อง ตลาดรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ-ประชุมเฟดสัปดาห์หน้า
– ผู้จัดการตลาดหุ้นแนะ 3 แนวทางรีดภาษีหุ้น “อัตราเหมาะสม-ไม่ซ้ำซ้อน-มีเวลาปรับตัว” รอประเมิน ผลกระทบจริงปีหน้า ด้าน โบรกเกอร์เชื่อวอลุ่มเทรดซบเซาส่วนหนึ่งมาจากการประท้วงภาษีขายหุ้น ขณะ “คลัง” ไม่หวั่นนักลงทุนหันเทรดหุ้นนอก ย้ำยังไงก็ต้องเสียภาษีในต่างประเทศ ด้านสรรพากรยืนยันศึกษามาดีแล้ว
– ก.ล.ต. เดินหน้าบูรณาการ ทำงานทุกฝ่าย เร่งดำเนินการเอาผิดทางอาญา กรณี “หุ้น MORE” โดยเร็วที่สุด ขณะที่ 10 โบรกร่วมหารือ เผยเข้าใจกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น พร้อมร่วมมือ ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติม จับตา “บล.เอเชีย เวลท์” เสนอแผนแก้ไข “เอ็นซี” ภายใน 13 ธ.ค. นี้
– อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย.65 ว่า ดัชนีทุกรายการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือนนับจากเดือนเม.ย.64 โดยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย.65 อยู่ที่ 47.9 เพิ่มจาก 46.1 ในเดือน ต.ค.65, ดัชนีความเชื่อมั่นในปัจจุบัน อยู่ที่ 32.6 เพิ่มจาก 30.7, ดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคต อยู่ที่ 55.2 เพิ่มจาก 53.4 ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 42.0 เพิ่มจาก 40.0, ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางาน อยู่ที่ 45.2 เพิ่มจาก 43.6 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 56.4 เพิ่มจาก 54.8
– ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า เตรียมจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมบีซีจี หรือไบโอ เซอร์กูลา กรีน อิโคโนมี ในพื้นที่โครงการในพื้นที่เขตพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จำนวน 1,482 ไร่ ที่ ต.สำนักทอง อ.เมืองระยอง จ.ระยอง และ จ.ลำพูน พื้นที่ 653 ไร่ ต.มะเขือแจ้ ต.บ้านกลาง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน เป็น 2 พื้นที่แรก รวมประมาณ 2,135 ไร่ คาดว่า ใช้เงินพัฒนาเบื้องต้น 3,000 ล้านบาท ขั้นตอนต่อไปจะเสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. เห็นชอบภายใน ม.ค.66 จากนั้นจะนำเสนอ ครม. เห็นชอบต่อไป
– สกพอ.เร่งทำแผนผัง ใช้ประโยชน์ที่ดินรอบสถานีมักกะสัน ตั้งเป้าเสร็จใน 1 ปี แบ่งพัฒนา 5 โซน เตรียมส่งมอบให้ “ซีพี” 140 ไร่ พัฒนาโซน A สร้างเมืองอัจฉริยะ พื้นที่มิกซ์ยูส 8 แสนตร.ม.ยึดแนวคิดเกตเวย์ของอีอีซี รฟท.ประเมินมูลค่าลงทุนไม่ต่ำกว่า 4.2 หมื่นล้านบาท พร้อมวางกรอบสร้างพื้นที่สีเขียวไม่ต่ำกว่า 60% พร้อมพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย
หุ้นเด่นวันนี้
– บมจ. ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “ITC” ในวันที่ 9 ธันวาคม 2565 โดยราคา IPO อยู่ที่ 32 บาท
– THCOM (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 14.30 บาท เดินหน้าสู่การประมูลวงโคจรในเดือน ม.ค. หลังเราเห็นรายชื่อของหลายบริษัทที่เข้ามาซื้อซอง THCOM ลุ้นได้ประโยชน์ 2 ต่อ 1) ประมูลวงโคจรเฉพาะที่บริษัทสนใจและจะใช้แทน THCOM 4 (119.5 E) 2) หากผู้ประมูลรายอื่นเอาวงโคจรอื่นและลงทุนสร้างดาวเทียมใหม่ THCOM มีโอกาสเป็นคนรับ Operate เพราะมีความเชี่ยวชาญมากกว่า หนุนรายได้เข้ามาอีกทาง Bloomberg Consensus ประเมินผลกำไรปี 65-66 เฉลี่ยที่ 346 ลบ. และ 347 ลบ. +141%YoY และทรงตัว YoY ตามลำดับ
– RATCH (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 54 บาท เป็นตัวเต็งที่จะได้ปรับเข้าคำนวณดัชนี SET50 รอบใหม่ และเป็นตัวเต็งชนะประมูลขายไฟฟ้าฯ 5,200 MW และเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอให้ Dividend yield เฉลี่ย 5% ต่อปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ธ.ค. 65)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย