นายพัฒนศรณ์ เผอิญโชค ผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ.ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ (TRU) เชื่อมั่นว่าบริษัทจะได้รับอานิสงส์จากทิศทางอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศที่เร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับตัวถังและอุปกรณ์ภายในตัวรถที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ทั้งในรถ EV และรถที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง
ปัจุบันภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนตลาดรถ EV อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการให้เข้ามาตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทยภายในระยะเวลา 2 ปีข้างหน้า โดยกำหนดปริมาณผลิตไม่ต่ำกว่าจำนวนที่ได้จำหน่ายรถยนต์ EV นำเข้าออกไป ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการชิ้นส่วนต่างๆ มีมากขึ้น รวมไปถึงความต้องการจ้างประกอบรถ EV ด้วย
สำหรับทิศทางผลประกอบการในปี 66 เบื้องต้นคาดว่ายังจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แต่อัตราการเติบโตอาจจะต่ำกว่าปี 65 ที่ตลาดรถยนต์ฟื้นตัวได้เร็ว โดยในปีหน้าจะได้รับปัจจัยหนุนจากงานประกอบเครื่องจักรอุตสาหกรรมส่งออกไปยังญีปุ่นมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่องและปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจารับงานเพิ่มเติม
ส่วนธุรกิจจำหน่ายรถยนต์มีทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น โดยภาพรวมมีการเปิดให้ประมูลโครงการใหม่ๆเพิ่มเติม และทิศทางการส่งออกก็ดีขึ้น
ขณะที่ผลประกอบการในปีนี้ บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 65 จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 40% เมื่อเทียบกับปี 64 ที่มีรายได้ 2,019.31 ล้านบาท โดยทิศทางในไตรมาส 4/65 จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่อาจจะชะลอลงเล็กน้อยจากไตรมาส 3/65 เนื่องจากจำนวนวันการทำงานน้อยกว่า
ปัจจุบัน TRU ดำเนินธุรกิจอยู่ 3 ส่วนหลัก คือ 1.ผลิตแม่พิมพ์ และ ชิ้นส่วน อาทิ Body Parts ,Chassis Parts และ Fuel tank เป็นต้น ซึ่งมีการให้บริการชุบสีและพ่นสีกันสนิมที่มีจุดขายคือสามารถรองรับยานยนต์ขนาดใหญ่ได้ 2.รับจ้างประกอบทั้งเครื่องยนต์สันดาปและรถกลุ่ม EV , เครื่องจักรอุตสาหกรรม รวมไปถึงการผลิตและจำหน่าย รถกระบะพื้นเรียบ (Flat Deck) ส่วนที่ 3.ดัดแปลงรถยนต์ต่างๆ ตามความต้องการของลูกค้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ธ.ค. 65)
Tags: EV, TRU, น้ำมันเชื้อเพลิง, พัฒนศรณ์ เผอิญโชค, รถยนต์ไฟฟ้า, อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า, ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์