นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บล.โกลเบล็ก จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญของ บมจ.ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ (DTCENT) เปิดเผยว่า ผลการจองซื้อหุ้น IPO ของ DTCENT จำนวน 305 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท/หุ้น ในราคาหุ้นละ 2.86 บาท ระหว่างวันที่ 1-2 และ 6 ธ.ค.65 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองซื้อเต็มจำนวน คาดว่ามาจากความเชื่อมั่นปัจจัยพื้นฐานของ DTCENT ในฐานะผู้นำระบบติดตามยานพาหนะ GPS Tracking อันดับ 1 ในประเทศไทย (อ้างอิงจากข้อมูลกรมการขนส่งทางบกในเดือน ม.ค.65)
รวมถึงการที่หุ้น DTCENT กำหนดราคาหุ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่แข็งแกร่ง มีการออกแบบและพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ รวมทั้งการพัฒนา IoT Solution และ AI ได้ตามความต้องการของลูกค้ามาโดยตลอด ส่งผลให้มีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง
ทั้งนี้ DTCENT เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 15 ธ.ค.65 ในหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)
“การเสนอขายหุ้นไอพีโอของ DTCENT ถือว่าประสบความสำเร็จและมีกระแสตอบรับที่ดี แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่า เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีการให้บริการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างครบวงจร และมีศักยภาพการเติบโตในอนาคต สำหรับการระดมทุนครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้นักลงทุน” นายกิตติพันธ์ กล่าว
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า จุดเด่นของ DTCENT ประกอบด้วย มีทีมผู้บริหารและทีมงานมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มากกว่า 25 ปี มีพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้ง บริษัท ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น (YES) ถือหุ้นใน DTCENT จำนวน 18% ก่อนการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) โดย YES จะร่วมพัฒนาให้ DTCENT เป็น Tier 1 Supplier ในการดำเนินธุรกิจ OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ส่วนบริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด (BRS) ถือหุ้นจำนวน 15% ก่อนการเสนอขายหุ้น IPO ถือเป็นพันธมิตรหลักที่จะเข้ามาส่งเสริมเพิ่มศักยภาพ ให้แก่บริษัทในด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) และพัฒนาผลิตภัณฑ์ Supply Chain Solutions ใหม่ๆ เพื่อช่วยลดต้นทุนและเสริมประสิทธิภาพในการทำงานให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการโลจิสติกส์
นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ DTCENT กล่าวว่า บริษัทเตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้ในการลงทุนสร้างศูนย์บริหารจัดการและบริการข้อมูลยานพาหนะ (Vehicle Monitoring and Support Center) และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ รวมทั้งใช้เป็นเงินลงทุนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการรองรับการขยายธุรกิจได้ในอนาคต
“นอกจากธุรกิจ GPS Tracking แล้ว กลุ่มบริษัทมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นใหม่ที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเป็นระบบอัจฉริยะในกลุ่มงาน IoT อันประกอบด้วย ระบบบริหารจัดการน้ำ, ระบบ SMART CITY SOLUTION หรือระบบบริหารการจัดการองค์กรส่วนท้องถิ่น, BAMS (Business Activity Management System), BIM (Building Information Modeling), EV Platform, Logistics Demand-Supply Matching Platform และระบบ AI สำหรับงาน IoT ซึ่งบริษัทฯ คาดหวังว่า ธุรกิจดังกล่าวจะช่วยสร้างรายได้และมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นอีกด้วย” นายทศพล กล่าว
ปัจจุบัน DTCENT มีบริษัทย่อย 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท วิศวกรรม ซอฟต์แวร์ จำกัด (WS) บริษัท ไทย ดิจิทัล แมพ จำกัด (TDM) และบริษัท ดี คอร์ ซิสเต็ม อินทิเกรเตอร์ จำกัด (DCORE) โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 90%, 95% และ 90% ตามลำดับ
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานย้อนหลังในปี 62-64 และงวด 9 เดือนแรกของปี 65 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 810.94 ล้านบาท 639.38 ล้านบาท 591.53 ล้านบาท และ 479.72 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 166.49 ล้านบาท 109.12 ล้านบาท 77.24 ล้านบาท และ 52.39 ล้านบาท ตามลำดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ธ.ค. 65)
Tags: DTCENT, GPS Tracking, IPO, กิตติพันธ์ ภูษณวรรณ, ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์, ทศพล คุณะเพิ่มศิริ, บล.โกลเบล็ก, หุ้นไทย, เอกจักร บัวหภักดี