ราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นปรับตัวลงจากราคาน้ำมันปรับตัวลงต่ำในรอบ 1 ปีอาจรับผลขาดทุนสต็อกน้ำมัน ยกเว้น SPRC ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
เมื่อเวลา 11.47 น.
- TOP ปรับลง 2.24% หรือลดลง 1.25 บาท มาที่ 54.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 218.70 ล้านบาท
- ESSO ปรับลง 1.63% หรือลดลง 0.20 บาท มาที่ 12.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 119.65 ล้านบาท
- BCP ปรับลง 0.78% หรือลดลง 0.25 บาท มาที่ 31.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 26.35 ล้านบาท
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู่อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ -รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นปรับตัวลงตอบรับราคาน้ำมันร่วง ยกเว้น บมจ.สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
ล่าสุด (6 ธ.ค.65) ราคาน้ำมัน WTI ส่งมอบเดือนม.ค. (6 ธ.ค.) ลดลง 2.68 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 74.25 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.64 หรือต่ำสุดในรอบ 1 ปี เทียบกับไตรมาส 3/65 ที่ราคาน้ำมัน WTI ปิดที่ 79 เหรียญ/บาร์เรล จึงทำให้คาดว่าโรงกลั่นจะมีผลขาดทุนสต็อกน้ำมันได้ในไตรมาส 4/65
ประกอบกับ ค่าการกลั่นปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยเมื่อ 6 ธ.ค.65 ค่าการกลั่นอยู่ที่ 5.92 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลงจากวันที่ 5 ธ.ค.65 ค่าการกลั่นอยู่ที่ 6.07 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ 8.39 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในวันที่ 1 ธ.ค.65 ทั้งนี้คาดว่าค่าการกลั่นในไตรมาส 4/65 ทรงตัวจากไตรมาส 3/65 และไตรมาส 4/64
ขณะที่ หุ้น บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) ราคา outperform กว่าตัวอื่นจึงถูกแรงขายทำกำไรออกมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ธ.ค. 65)
Tags: BCP, ESSO, SPRC, TOP, กิติชาญ ศิริสุขอาชา, น้ำมัน WTI, ราคาน้ำมัน, หุ้นกลุ่มโรงกลั่น, หุ้นไทย, โรงกลั่น