นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 35.14 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.12 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย เคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค ภาพรวมตลาดกลับมากังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้เมื่อคืนนี้ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.90 – 35.20 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยในประเทศวันนี้ต้องติดตามกระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า ส่วนภาพใหญ่ตลาดรอดูดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) สัปดาห์หน้า
THAI BAHT FIX 3M (6 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.15649% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.65232%
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 137.11 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 136.73 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.0464 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0497 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.052 บาท/ดอลลาร์
- ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม – 5 ธันวาคม 2565 ประเทศไทยให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว จำนวน 9.78 ล้านคน (ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ณ วันที่ 5 ธันวาคม 2565) และคาดว่าในวันที่ 10 ธันวาคม 2565 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมเตรียมทะยานสู่ 10 ล้านคน ครบตามที่ ททท. ได้ตั้งเป้าหมายปี 2565 ไว้
- “สุพัฒนพงษ์” โยน “กกพ.” เร่งสรุปตัวเลขค่าเอฟทีงวด ม.ค.-เม.ย.66 รับเน้นดูแลภาคครัวเรือน ส่วนสุดท้ายจะเป็นอัตราใดอยู่ที่ กกพ.นำมติ กพช.ไปพิจารณาดำเนินการ ส่วนดีเซลยังคงตรึง 35 บาทต่อลิตรแม้ตลาดโลกลดลง ส่วน กบน. ยังติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกใกล้ชิด แม้ราคาตลาดโลกจะอ่อนตัวลงเพราะฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิยังติดลบ 129,426 ล้านบาท
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (6 ธ.ค.) โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (6 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยและยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,800 ดอลลาร์ เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.4% ในไตรมาส 4 โดยสูงกว่าระดับ 2.8% ที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ กล่าวเตือนว่าเงินเฟ้ออาจฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า
- นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้ โดยขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 91% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่กรอบ 5.00-5.25% ในเดือนพ.ค. 2566 หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ที่ระดับ 4.75-5.00%
- ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ออกรายงานคาดการณ์ว่า ราคาทองจะพุ่งขึ้น 30% สู่ระดับ 2,250 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีหน้า
- นักลงทุนระดับมหาเศรษฐีพันล้าน คาดการณ์ว่า บิตคอยน์จะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 250,000 ดอลลาร์ในกลางปี 2566 โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งจะขับเคลื่อนราคาต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ธ.ค. 65)
Tags: ค่าเงินบาท, อัตราแลกเปลี่ยน, เงินบาท