แบล็คสโตน อิงค์ได้จำกัดการถอนเงินจากทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ที่มีมูลค่า 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (1 ธ.ค.) หลังคำขอไถ่ถอนพุ่งสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อธุรกิจที่ช่วยให้บริษัทแห่งนี้ผงาดขึ้นเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการบริหารสินทรัพย์
ทั้งนี้ การจำกัดดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากการไถ่ถอนพุ่งแตะขีดจำกัดที่ได้มีการกำหนดไว้ล่วงหน้า โดยแบล็คสโตนไม่ได้กำหนดเพดานการไถ่ถอนขึ้นใหม่เมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของกองทรัสต์ REIT ของแบล็คสโตน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 17% ของรายได้บริษัท โดยหุ้นแบล็คสโตนปิดร่วง 7.1% จากกระแสข่าวนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวระบุว่า นักลงทุนจำนวนมากที่ลงทุนในกองทรัสต์ REIT ดังกล่าวต่างกังวลต่อกรณีที่แบล็คสโตนนั้นมีความล่าช้าในการปรับมูลค่าของกองทรัสต์ดังกล่าวให้สอดคล้องกับ REIT ที่ซื้อขายกันในตลาด ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นถ่วงมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ เพราะทำให้การระดมทุนด้านอสังหาริมทรัพย์แพงขึ้น
แบล็คสโตนรายงานผลตอบแทน REIT ที่ 9.3% ในปีนี้ ซึ่งสวนทางกับผลตอบแทนของดัชนี Dow Jones U.S. Select REIT Total Return Index ที่ลดลง 22.19% ในช่วงเวลาเดียวกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ธ.ค. 65)
Tags: REIT, กองทรัสต์, บริหารสินทรัพย์, อสังหาริมทรัพย์, แบล็คสโตน อิงค์