![](https://www.infoquest.co.th/wp-content/uploads/2020/03/MONEY11-1024x502.jpg)
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.82 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่องจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.99 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าหลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาเมื่อคืนต่ำกว่าคาด ทำให้บอนด์ยีลด์ปรับตัวลดลง จึงมีแรงเทขายดอลลาร์ออกมาจากนักลงทุน
ขณะที่มีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาในตลาดพันธบัตรระยะยาวเมื่อวานนี้ราว 1 หมื่นล้านบาท และผู้ค้าทองขายดอลลาร์จากการส่งออกทองที่ปรับสูงขึ้น
“บาทปรับตัวแข็งค่าต่ำสุดในรอบกว่า 5 เดือน หลังดอลลาร์อ่อนค่า และบาทมีปัจจัยในประเทศหนุนให้แข็งค่า”
นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.70 – 35.00 บาท/ดอลลาร์ ทิศทางวันนี้น่าจะทรงตัว แต่ต้องจับตาดูทิศทางของเงินตราต่างประเทศ และคืนนี้มีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ โดยตลาดคาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่ม 2 แสนตำแหน่ง
THAI BAHT FIX 3M (1 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.13566% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.59472%
*ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 135.52 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 136.43/46 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.0507 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0434/0436 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.989 บาท/ดอลลาร์
- รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากที่ ครม.มีมติให้จัดเก็บภาษีขายหุ้นนั้น ไม่ได้จัดเก็บทันที ยังมีเวลาให้ตลาดหุ้นปรับตัวเนื่องจากกฎหมายยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบความถูกต้องของกฤษฎีกา และเมื่อประกาศในราชกิจจาครบ 3 เดือน หรือ 90 วัน จึงจะมีผลบังคับใช้ ดังนั้น ผู้ขายหุ้นยังมีเวลาปรับตัวและทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีขายหุ้น
- โบรกเกอร์ ประเมินหุ้นไทยเดือนธ.ค.มีลุ้นแตะ 1,700 จุด จาก 3 ปัจจัยหนุน เงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย-จีนคลายล็อกดาวน์ บางมณฑล ด้าน “สมาคมค้าทองคำ” ลุ้นราคาทองแตะ 1.8 พันดอลลาร์
- “เครดิตบูโร” เปิดข้อมูล หนี้รายย่อยไตรมาส 3 พบหนี้เสียทั้งระบบ ทะลุ 1.1 ล้านล้านบาท เอ็นพีแอลแตะ 8.5% ขณะที่ หนี้ค้างชำระพุ่งต่อเนื่อง ห่วงสินเชื่อบุคคล เบี้ยวหนี้พุ่ง โดยเฉพาะกลุ่มเจนวาย-เจนเอ็กซ์กว่า 5 ล้านบัญชี แนะเร่งช่วยลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หวั่นปัญหาลามกระทบจ้างงาน
- กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แถลงโอมิครอนสายพันธุ์ BA.2.75 สัปดาห์เดียวพุ่ง 63.3% ติดเชื้อในประเทศทะลุ 58.8% ขณะที่ BN.1 และลูกหลานแพร่มากกว่าสัปดาห์ก่อน 4 เท่า ส่วนสายพันธุ์ XBB.1 เจอ 4 ราย และ BQ.1 พบ 7 ราย ส่วนสายพันธุ์ XBC หรือ เดลตาครอน ลูกผสมระหว่างเดลต้ากับโอมิครอน BA.2 เจอในไทยแล้ว 1 คน แต่รักษาหายแล้ว ยังไม่พบความรุนแรง
- “หมอหนู” กราบวิงวอนคนไทยรับวัคซีนโควิดให้ครบ 4 เข็ม ยกเคส “รมช.สธ.” ติดแล้วอาการไม่รุนแรง ห่วงเดือนนี้เสี่ยงหนัก เหตุท่องเที่ยวมาก กิจกรรมเยอะ ต่างชาติเข้ามาอีก สั่งทุกจังหวัดจัดหน่วยเคลื่อนที่ฉีดให้ประชาชน กทม.รับยอดพุ่งเท่าตัว แต่ป่วยเล็กน้อย ยันยาเพียงพอ เปิดวอล์กอินบริการ รพ.ทั่วกรุง
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 225,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 236,000 ราย
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.0% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 6.3% ในเดือนก.ย.
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (1 ธ.ค.) หลังมีรายงานบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันพฤหัสบดี (1 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นอกจากนี้ ข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 79% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้ และให้น้ำหนักเพียง 21% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันดังกล่าว
- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนพ.ย.ทรงตัวที่ระดับ 3.7%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ธ.ค. 65)
Tags: ค่าเงินบาท, อัตราแลกเปลี่ยน, เงินบาท