นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้องในคดีถือหุ้นสื่อว่า เรายืนยันความบริสุทธิ์ใจ พร้อมต่อสู้คดี ถือว่าอัยการได้มีคำตัดสินมาแล้ว ขอบคุณที่ให้ความเป็นธรรม
ส่วนคดีที่อัยการสูงสุดชี้ขาดมีคำสั่งฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่น ร่วมกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้านั้น คดีนี้ผู้มีอำนาจต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะหยุดยั้งเรา เราก็พร้อมสู้ทุกคดี ตนเข้ามาทำงานการเมือง 4 ปีแล้ว ไม่เคยมีครั้งไหนจะคิดทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวเลย
“คดีความต่างๆ ที่เล่นงานผมและพรรคพวก ไม่ว่าจะเป็น นายปิยบุตร แสงกนกกุล หรือแกนนำพรรคอนาคตใหม่อื่นๆ เป็นแรงผลักดันทางการเมือง เพื่อต้องการหยุดยั้งเรา ขอย้ำว่าคดีต่างๆ เหล่านี้ไม่สามารถหยุดยั้งความตั้งใจจริงของเราได้ เราจะทำงานเต็มที่ต่อไปเรื่อยๆ” นายธนาธร กล่าว
ส่วนกระแสข่าวการแยกทางเดินทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้น นายธนาธร กล่าวว่า ไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ระบอบประยุทธ์ ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะยังอยู่หรือไม่ ระบอบนี้ก็ยังอยู่กับเรา และระบอบประยุทธ์ใหญ่กว่าตัว พล.อ.ประยุทธ์เอง เพราะอยู่ในประกาศคำสั่ง คสช. องค์กรอิสระต่างๆ และอยู่ในรูปแบบร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงวิธีคิดต่างๆ
“ยังไงก็ต้องเอาประเทศไทยกลับมาเดินในแนวทางประชาธิปไตยให้ได้ ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นหัวหน้าพรรคไหน จะทำการเมืองต่อหรือไม่ก็ตาม ยังไงก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญ แก้เรื่องที่มาขององค์กรอิสระ ผลักดันเรื่องการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นต่อ ที่คสช.จนถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 2 มีแนวโน้มปิดกั้นการกระจายอำนาจฯ”
นายธนาธร ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับอนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยกล่าวว่า เราพยายามตั้งใจทำงานให้เต็มที่มากที่สุด ให้ประชาชนเห็นความตั้งใจ ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่ควบคุมและจัดการไม่ได้ก็ไม่ต้องไปกังวล เรากังวลกับสิ่งที่อยู่ในขอบเขตที่เราสามารถทำให้ดีขึ้นได้ ส่วนที่ไม่ได้อยู่ในขอบเขต อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เราพร้อมรับทุกสถานการณ์
สำหรับการเสนอแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับคงจะไม่ทันสภาฯ ชุดนี้แล้ว แต่สิ่งที่พอมีหวังคือแก้รัฐธรรมนูญฉบับที่อยู่ในรัฐสภาวันนี้ คือเรื่องหมวด 14 ว่าด้วยการปกครองส่วนท้องถิ่น และการให้ประชาชนทำประชามติถามประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนคิดว่า 2 เรื่องนี้พอมีความเป็นไปได้
นายธนาธร กล่าวว่า สำหรับแนวทางการเตรียมพร้อมในการเลือกตั้ง ตนคิดว่าทุกคนพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง ไม่ว่ากฎกติกาจะเป็นแบบไหน กติกาการเลือกตั้งแม้จะทำมาซึ่งการเสียเปรียบแต่เราพร้อม เชื่อว่าผลงานตอนพรรคอนาคตใหม่ในสภาฯ ผลงานของคณะก้าวหน้าในการเมืองท้องถิ่น หวังว่าประชาชนจะเห็นสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เข้าใจในสิ่งที่พวกเราพยายามทำ เข้าใจความหวังดีของพวกเรา และกลับมาเป็นคะแนนสนับสนุนพวกเรา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ย. 65)
Tags: การเมือง, คณะก้าวหน้า, ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, ประมวลกฎหมาย, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ปิยบุตร แสงกนกกุล, ผู้ถือหุ้นสื่อ, สำนักงานอัยการสูงสุด