นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการจดทะเบียนธุรกิจการค้า ในเดือน ต.ค.65 ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศ 5,911 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 6% ซึ่งอยู่ที่ 5,555 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 34,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 58% ที่มีมูลค่าทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 21,965 ล้านบาท
โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 502 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 479 ราย คิดเป็น 8% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 273 ราย คิดเป็น 5% ตามลำดับ
ส่วนธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการ ในเดือนต.ค.65 มี 1,973 ราย ลดลง 0.1% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน มูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ 7,315.55 ล้านบาท ลดลงถึง 96% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 166 ราย คิดเป็น 8% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 125 ราย คิดเป็น 6% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 44 ราย คิดเป็น 2%
ส่งผลให้ ณ วันที่ 31 ต.ค. 65 มีธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ 849,958 ราย มูลค่าทุน 20.56 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 201,330 ราย คิดเป็น 23.69% บริษัทจำกัด 647,253 ราย คิดเป็น 76.15% และบริษัทมหาชนจำกัด 1,375 ราย คิดเป็น 0.16%
นายจิตรกร ยังกล่าวถึงการลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าวว่า ใน เดือนต.ค.65 ด้วยว่า มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 44 ราย แบ่งเป็น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 17 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ 27 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 7,059 ล้านบาท
ส่งผลให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 65 (ม.ค.-ต.ค.) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 480 ราย เพิ่มขึ้น 8% เงินลงทุน 106,437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด 3 สัญชาติแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 15 ราย เงินลงทุน 2,756 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ ฮ่องกง 5 ราย เงินลงทุน 579 ล้านบาท และสิงคโปร์ 4 ราย เงินลงทุน 268 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 พ.ย. 65)
Tags: กระทรวงพาณิชย์, จดทะเบียนธุรกิจ, จิตรกร ว่องเขตกร, ชาวต่างชาติ, ผู้ประกอบธุรกิจ