บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หรูสัญชาติเยอรมัน มองว่ามาตรการคุมโควิด-19 ในจีนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับปีหน้า แม้อุปสงค์รถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทจะยังดีอยู่ และยอดขายทั่วโลกยังมีเสถียรภาพก็ตาม
นายโอลิเวอร์ ซิปเซ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BMW กล่าวว่า “มาตรการล็อกดาวน์ในจีนกำลังเพิ่มขึ้น ไม่ได้ลดลง” พร้อมเสริมว่า “ผมกังวลว่าเราจะออกจากสถานการณ์ล็อกดาวน์ในไตรมาสต่อ ๆ ไปอย่างไร ผมมองไม่เห็นเลยว่าจีนมีแนวทางการแก้ปัญหา”
นายซิปเซระบุว่า อุปสงค์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบของ BMW ในจีนยังคงแข็งแกร่ง และการเปิดตัวรถยนต์รุ่น Mini ที่ใช้แบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวและ i5 ในปีหน้าน่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้เช่นกัน
นอกจากนี้ นายซิปเซระบุว่า ยอดขายทั่วโลกของ BMW ในปีหน้าควรจะอยู่ในระดับเดียวกับปีนี้ พร้อมเสริมว่า จะมีการเติบโตที่แตกต่างกันในส่วนต่าง ๆ ของโลก แต่โดยรวมแล้วจะชดเชยซึ่งกันและกัน
สำหรับปีนี้ BMW คาดการณ์ว่า ยอดจัดส่งจะต่ำกว่าระดับของปีก่อนหน้าที่ 2.5 ล้านคันเล็กน้อย โดยปรับลดแนวโน้มสำหรับการจัดส่งเดือนส.ค. หลังจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายจะยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2564 แม้วิกฤตห่วงโซ่อุปทานจะรุนแรงขึ้นก็ตาม โดยเมื่อต้นเดือนพ.ย. บริษัทระบุว่า อุปสงค์กลับสู่ระดับปกติหลังจากมียอดซื้อที่สูงขึ้นมากหลังโควิด โดยเฉพาะในยุโรป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 65)
Tags: BMW, จีน, บีเอ็มดับเบิลยู, ผู้ผลิตรถยนต์, รถยนต์ไฟฟ้า, เยอรมัน, โอลิเวอร์ ซิปเซ