หุ้นไทยปิดเช้าบวก 8.15 จุด ทิศทางเดียวภูมิภาครับแรงเก็งกำไรกระจายหลายกลุ่ม

SET ปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,623.48 จุด เพิ่มขึ้น 8.15 จุด (+0.50%) มูลค่าการซื้อขายราว 30,043 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับขึ้นสอดคล้องตลาดภูมิภาค รับแรงเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งกลุ่มเปิดเมือง กลุ่มพลังงาน กลุ่มสื่อสาร แต่ไม่ได้มีปัจจัยบวกหรือลบชัดเจน ตลาดยังรอติดตามรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แม้อาจมีผลต่อไทยไม่มากนัก แต่ให้น้ำหนักการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)30 พ.ย.ช่วงบ่ายคาดตลาดพยายามยืนบวก ให้แนวต้านที่ 1,625 และ 1,628 จุด แนวรับ 1,614 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ 1,623.48 จุด เพิ่มขึ้น 8.15 จุด (+0.50%) มูลค่าการซื้อขายราว 30,043 ล้านบาท

การซื้อขายในช่วงเช้านี้ ดัชนีปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุด 1,624.99 จุด และต่ำสุด 1,617.56 จุด

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นมาสอดคล้องตลาดภูมิภาค เคลื่อนไหวตามแรงเก็งกำไรหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มเปิดเมือง รวม COM7 ที่คาดจะเข้า SET50 , กลุ่มพลังงาน จากมีสัญญาณผลกำไรดีขึ้น , กลุ่มสื่อสารฟื้นจากลงไปแรงเมื่อวานนี้รับความกังวล TRUE-DTAC ยกเลิกเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ทำให้ราคาหุ้นมีอัพไซด์เพิ่ม โดย DTAC ลงไปแตะ 40 บาท ทำให้มี discount ถึง 20% จึงมีแรงเก็งกำไรมากกว่า TRUE

นอกจากนี้ ก็ยังมีแรงขายกลุ่มค้าปลีก อาทิ CPALL, MAKRO, BJC ออกมาสลับกับแรงซื้อที่ตอบรับอานิสงส์การถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2022 รวมทั้งแรงขายหุ้นขนาดเล็กและกลางที่เกี่ยวข้องกับหุ้น บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE)

ในระยะสั้น ตลาดหุ้นไม่ได้มีปัจจัยบวกหรือลบชัดเจน ตลาดยังรอติดตามรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งอาจมีผลต่อไทยไม่มากนัก แต่ให้น้ำหนักการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันที่ 30 พ.ย.65 มากกว่า โดยตลาดคาดว่า กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ทำให้เห็นแรงเก็งกำไรกลุ่มแบงก์ ส่งผลบรรยากาศเก็งกำไรค่อนข้างดี

รวมทั้งมีแรงเก็งกำไรกลุ่มพลังงานทดแทน เนื่องจากวันที่ 25 พ.ย.นี้จะมีการยื่นข้อเสนอขายไฟฟ้ารวม 5,200 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจากวันนี้ถึงปลายสัปดาห์นี้จะมีแรงเก็งกำไรมากขึ้น แนะ GULF, EGCO, GUNKUL, SSP, BCPG

แนวโน้มตลาดหุ้นช่วงบ่าย นายกิจพณ มองว่าตลาดฯพยายามยืนบวก โดยช่วงสั้นตลาดไม่ค่อยมีทิศทางชัดเจนเพราะส่วนใหญ่มีแรงเก็งกำไรเข้ามารายตัว ให้แนวต้านที่ 1,625 และ 1,628 จุด แนวรับที่ 1,614 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,409.32 ล้านบาท ปิดที่ 193.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,235.32 ล้านบาท ปิดที่ 33.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 879.49 ล้านบาท ปิดที่ 75.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 851.82 ล้านบาท ปิดที่ 29.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 841.97 ล้านบาท ปิดที่ 656.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top