บมจ.ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ (UBA) เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 170,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็น 28.33% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจ กลุ่มบริการ
UBA ดำเนินธุรกิจในการให้บริการจัดการน้ำ เดินระบบ และบำรุงรักษาแบบครบวงจร สามารถแบ่งออกเป็น 2 บริการหลัก คือ 1) การให้บริการงานด้านวิศวกรรมและจัดหาอุปกรณ์ ที่ครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ ติดตั้งอุปกรณ์และงานก่อสร้าง ซึ่งคิดเป็นรายได้ราว 20%
และ 2) การให้บริการจัดการเดินระบบ และบำรุงรักษาแบบครบวงจร (IOM) เป็นธุรกิจหลักของ UBA ตั้งแต่เริ่มต้น ก็คืองาน Start Up ระบบ งานเดินระบบ ซ่อมบำรุงและงานแก้ไขปัญหาภาวะฉุกเฉิน คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 80%
โดยทั้ง 2 บริการนี้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ของ UBA ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ คือ ระบบบำบัดน้ำเสีย, ระบบน้ำประปา และ อุโมงค์ระบายน้ำ
ปัจจุบัน UBA ได้ให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าทั้งหน่วยงานราชการ เช่น สำนักงานการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร และการประปานครหลวง เป็นต้น รวมถึงลูกค้าเทศบาลเมืองต่าง ๆ นอกจากนี้ยังให้บริการลูกค้าภาคเอกชนในหลายอุตสาหกรรม อาทิ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจถุงมือยาง และธุรกิจปิโตรเคมี อีกด้วย
นายสมชาติ สังหิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร UBA เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า ถ้านำการบำบัดน้ำเสียของประเทศเราไปเทียบกับประเทศอื่น ในประเทศที่พัฒนาแล้วมีการบำบัดน้ำเสียเฉลี่ย 91% บางประเทศเกือบ 100% แต่ประเทศไทยปัจจุบันนี้มีการบำบัดน้ำเสียเพียง 27% จากปริมาณน้ำเสียทั้งหมด นั่นหมายความว่า ในอนาคตอุตสาหกรรมนี้ยังเติบโตได้ เพราะเราต้องบำบัดน้ำเสียให้มากขึ้นเพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะหลักแนวคิดเรื่อง ESG ก็จะเป็นแรงผลักดัน ให้ธุรกิจ UBA ที่เกี่ยวเนื่องกับสิ่งแวดล้อมสามารถเติบโตได้
ในส่วนของนโยบายภาครัฐเอง มีแผนอยู่แล้วว่าต้องสร้างโรงบำบัดน้ำเสียเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่ จากข้อมูลของเราจากนี้ไป 10-15 ปี ภาครัฐต้องสร้างโรงบำบัดน้ำเสียเป็น 3 เท่าของปัจจุบัน นอกจากนี้อุโมงค์ระบายน้ำจากนี้ไปอีก 5 ปี ต้องสร้างเพิ่มขึ้นมา 2.4 เท่าจากปัจจุบัน
ขณะที่งานภาคเอกชน แน่นอนว่างานบำบัดน้ำเสียจะต้องเติบโตไปพร้อมกับภาคอุตสาหกรรม อย่างปัจจุบันมีกฎหมายบังคับใช้ในเรื่องการกำหนดคุณภาพน้ำเสียที่จะออกมาว่าห้ามเกินเท่าไหร่ และการใช้กฎหมายมีความเข้มข้นมากขึ้น ก็เป็นส่วนผลักดันให้ทุกหน่วยงานต้องดำเนินการบำบัดน้ำเสีย
“UBA ดำเนินธุรกิจมา 21 ปี เรามีความเชี่ยวชาญ เรามีบุคลากรที่มีความชำนาญพิเศษเฉพาะด้านที่สามารถดูแลระบบให้ลูกค้าได้ นอกจากนี้เราให้บริการแบบครบวงจร กล่าวคือเราสามารถ ออกแบบ ติดตั้ง ก่อสร้าง เมื่อดำเนินการเสร็จแล้วเราก็เป็นผู้ใช้งานหรือ Operator ด้วย และการที่เราเป็นผู้ใช้งานมาก่อน ทำให้เรารู้ว่าการออกแบบอย่างไร ที่จะทำให้การใช้งานมันง่ายและประหยัดต้นทุนในระยะยาว อันนี้เป็นสิ่งที่เราดำเนินการให้กับลูกค้า นอกจากนี้ UBA ปัจจุบันมีส่วนแบ่งในตลาดอันดับ 1 ในงานบำบัดน้ำเสียและอุโมงค์ระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว
ภาพรวมผลประกอบการของ UBA ในปี 62-64 มีรายได้รวมจำนวน 432.40 ล้านบาท 532.69 ล้านบาท 533.59 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิจำนวน 18.30 ล้านบาท 43.43 ล้านบาท 52.35 ล้านบาท คิดเป็นเป็นอัตรากำไรสุทธิ 4.23%, 8.15%, 9.81% และงวด 6 เดือนแรกปี 65 บริษัทมีรายได้รวม 327.18 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 30.83 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 9.42%
“ส่วน 6 เดือนแรกของปีนี้ เรามีรายได้แล้วประมาณ 327 ล้านและมีกำไรประมาณ 30 ล้านบาท เราคาดหวังว่าปีนี้จะเป็น New high ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และปัจจุบันเรามีงานในมือ (Backlog) ทั้งหมดอยู่ประมาณ 1,116 ล้านบาท ซึ่งสามารถทยอยรับรู้รายได้ไป 2-3 ปี” นายสมชาติกล่าว
นายสมชาติกล่าว
– เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนพัฒนาระบบสารสนเทศ (Information System)
– เพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างสินค้าและบริการใหม่
– เพื่อใช้ซื้อและปรับปรุงเครื่องจักรที่ใช้สนับสนุนการดำเนินงาน
– เพื่อใช้ชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน
– เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
“ต้องบอกว่าจากการระดมทุนครั้งนี้ จะทำให้เรามีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น และจากการที่เรานำเงินบางส่วนไปใช้ในการปรับปรุงระบบสารสนเทศของเรา ทำให้เรามีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น เราจะเข้าประมูลงานที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น รวมถึงปริมาณงานที่มากขึ้นด้วย และมูลค่าตลาดจากนี้ 3-5 ปีที่เราจะเข้าร่วมประมูลมากกว่าหมื่นล้าน และจากสถิติในอดีตแล้ว Success Rate ของเราในแต่ละกลุ่มเฉลี่ย ๆ กันไปประมาณ 30-50 %” นายสมชาติ กล่าว
นายสมชาติ กล่าว
นายสมชาติ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ 80 % เป็นหน่วยงานรัฐ ทำให้เราจะลดการพึ่งพิงรายได้จากกลุ่มนี้ จะขยายไปยังกลุ่มลูกค้าในภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ตรงนี้ กลุ่มลูกค้าเอกชนก็จะมีหลายกลุ่มมาก เริ่มตั้งแต่ผู้ประกอบการในโรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจโรงแรมและโรงพยาบาลต่าง ๆ พวกนี้จะเป็นกลุ่มลูกค้าภาคเอกชนที่มีน้ำเสียและก็ต้องใช้น้ำ ก็จะเป็นกลุ่มที่เราต้องขยายเพิ่มขึ้นไป
“UBA ก็ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญและเป็นที่ยอมรับในธุรกิจนี้ ที่ผ่านมา UBA มีการปันผลอย่างต่อเนื่อง ผมคิดว่านอกจากหุ้นปันผลที่ดีแล้ว UBA จะเป็นหุ้นที่เติบโตได้ดีด้วย ที่สำคัญ UBA จะเป็นบริษัทแรกที่ดำเนินธุรกิจการให้บริการจัดการน้ำแบบครบวงจรของประเทศไทย ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อยากให้นักลงทุนเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจของเรา” นายสมชาติ กล่าว
นายสมชาติ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ย. 65)
Tags: IPO, IPOInsight, UBA, ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์, หุ้นไทย