ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (21 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หลังจากจีนประกาศล็อกดาวน์เขตต่าง ๆ ในกรุงปักกิ่งและอีกหลายเมืองเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,700.28 จุด ลดลง 45.41 จุด หรือ -0.13%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,949.94 จุด ลดลง 15.40 จุด หรือ -0.39% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,024.51 จุด ร่วงลง 121.55 จุด หรือ -1.09%
กรุงปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีน สั่งล็อกดาวน์เขตเฉาหยาง เขตไห่เตี้ยน เขตตงเฉิง และเขตซีเฉิง หลังมีรายงานพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในกรุงปักกิ่งเพิ่มอีก 2 รายในวันอาทิตย์ (20 พ.ย.) และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 951 ราย โดยเทศบาลกรุงปักกิ่งได้สั่งระงับการเรียนการสอนในโรงเรียนและเปลี่ยนไปเรียนทางออนไลน์ และสั่งให้ประชาชนในเขตเหล่านี้อยู่แต่ในบ้าน
นอกจากนี้ จีนยังได้สั่งล็อกดาวน์เมืองสือจยาจวง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเหอเป่ย และล็อกดาวน์เขตไป๋อวิ๋นในมณฑลกว่างโจว โดยสั่งระงับการเรียนการสอนในโรงเรียนและสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 5 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.ไปจนถึงวันที่ 25 พ.ย.
ข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าจีนอาจจะใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 ที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และขัดขวางความพยายามในการเปิดประเทศของจีน
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นนิวยอร์กลดช่วงลบในระหว่างวัน หลังจากนางแมรี ดาลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโกได้แนะนำให้เจ้าหน้าที่เฟดใช้ความระมัดระวังในการดำเนินนโยบายการเงิน เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ได้ออกมาแสดงความในทางเดียวกับนางดาลี โดยกล่าวว่าเธอสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยน้อยลงในการประชุมเดือนธ.ค.
หุ้นบริษัทกาสิโนของสหรัฐที่เข้าไปดำเนินงานในประเทศจีนร่วงลง โดยหุ้นวินน์ รีสอร์ท, หุ้นลาสเวกัส แซนด์ส คอร์ป, หุ้นเอ็มจีเอ็ม รีสอร์ท อินเตอร์เนชันแนล และหุ้นเมลโค รีสอร์ท แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนท์ ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 2%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมัน WTI โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.99% หุ้นเชฟรอน ปรับตัวลง 0.96% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 1.58% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ดิ่งลง 2.41%
หุ้นเทสลา ร่วงลง 6.84% หลังจากเทสลาประกาศเรียกคืนรถยนต์จำนวน 321,000 คันในสหรัฐ เนื่องจากพบปัญหาไฟท้าย
หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ พุ่งขึ้น 6.30% หลังจากนายบ็อบ ไอเกอร์ กลับมาดำรงตำแหน่งซีอีโอของดิสนีย์ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน เนื่องจากนายไอเกอร์เคยเป็นซีอีโอของดิสนีย์นานถึง 15 ปี โดยมีผลงานในการเข้าซื้อกิจการ Pixar, Lucasfilm และ Marvel ซึ่งต่างก็เป็นสินทรัพย์ที่ทำเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้กับดิสนีย์
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 1-2 พ.ย. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้ (23 พ.ย.) เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค., ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และจะมีการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์ที่ 25 พ.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ย. 65)
Tags: dowjones, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก