คณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงในวันนี้ (17 พ.ย.) ว่า จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 23,276 รายในวันพุธ (16 พ.ย.) โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ 2,388 ราย และไม่แสดงอาการ 20,888 ราย
ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันพุธเพิ่มขึ้นจากระดับ 20,199 รายในวันอังคาร (15 พ.ย.) โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ 1,623 ราย และไม่แสดงอาการ 18,576 ราย
ทั้งนี้ ไม่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ในจีน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงอยู่ที่ 5,226 ราย
สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนพุ่งขึ้นนั้น มาจากการติดเชื้อในเมืองที่สำคัญ ๆ ของจีน โดยในเมืองกว่างโจวซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจทางตอนใต้ของจีน พบผู้ติดเชื้อสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 8,761 ราย ขณะที่ทางการเมืองกว่างโจวได้ขยายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในเขตไห่จู
สำหรับในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีนนั้นพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 423 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในเมืองฉงชิ่งเพิ่มขึ้น 4,000 ราย และมีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในมณฑลซินเจียงเกือบ 1,000 ราย แม้ว่ามีการล็อกดาวน์เมืองอุรุมชีเป็นเวลานานก็ตาม
ทั้งนี้ แม้ว่าจีนยังคงเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ตามแนวทางของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนยังไม่มีแนวโน้มบรรเทาลง ซึ่งส่งผลให้ตลาดการเงินวิตกกังวลว่า จีนอาจจะกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดอีกครั้ง ซึ่งจะยิ่งทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกซบเซาลงอีก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 65)
Tags: COVID-19, จีน, โควิด-19