รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะเป็นประธานในการประชุม โดยคาดว่าจะมีการหารือถึงมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย และความพร้อมด้านการจราจร ด้านการแพทย์ รวมไปถึงงานด้านการข่าว การเตรียมพร้อมรับมือการก่อการร้าย การชุมนุมประท้วงของกลุ่มต่างๆ ในช่วงที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้นำเอเปค และการประชุมคู่ขนานที่เกี่ยวข้อง ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ที่กรุงเทพฯ ซึ่งได้มีบรรดาผู้นำจากหลายประเทศตอบรับเข้าร่วมเดินทางมาประชุมแล้ว
ส่วนวาระการพิจารณาที่สำคัญในที่ประชุม ครม.วันนี้
– กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงอีก 5 บาท/ลิตร ที่จะหมดอายุในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. 65 – 20 ม.ค. 66 ทั้งนี้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชน และช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งให้กับภาคธุรกิจ ในภาวะที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังอยู่ในระดับสูง
– กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอพิจารณาของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน โดยเป็นโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ผ่านการใช้งบกลาง 8,700 ล้านบาท ให้ไม่น้อยกว่า 2 ล้านคืน/ห้อง เฉพาะค่าห้องและคูปองใช้จ่าย วงเงิน 7,200 ล้านบาท และอีก 1,500 ล้านบาท เป็นงบเพื่อกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวปี 66
– กระทรวงพาณิชย์ เสนอโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีที่ 4 โดยจะปรับลดวงเงินโครงการลงจาก 1.5 แสนล้านบาท เหลือวงเงินประมาณ 82,000 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ราคาข้าวดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ทำให้ราคาข้าวที่เกษตรกรได้รับจริงสูงกว่าราคาที่ประกันรายได้ไว้ รัฐบาลจึงสามารถใช้งบประมาณได้ลดลงในการเข้าไปชดเชยส่วนต่างราคา
– กระทรวงสาธารณสุข เสนอขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีในการกำหนดค่าธรรมเนียมนการตรวจลงตราเพื่อการรักษาพยาบาล ระยะเวลา 1 ปี (Medical Treatment Visa) รหัส Non-MT
– กระทรวงพลังงาน เสนอการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การดำเนินธุรกิจของบริษัท อีแกท ไดมอนท์ เซอร์วิส จำกัด
– กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอขอความเห็นชอบโครงการบูรณาการท่องเที่ยวบนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
– กระทรวงการต่างประเทศ เสนอขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 33 และการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29
ร่างแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น ในระยะ 5 ปี และร่างถ้อยแถลงร่วมระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น เรื่อง การยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน
ร่างแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ไทย-จีน ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (พ.ศ.2565 – 2569)
ร่างแผนความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยการร่วมกันส่งเสริมเส้นทางเศรษฐกิจสายไหม และเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21
– กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เสนอขอความเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งราชอาณาจักรไทย และสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
– สำนักงายอัยการ (อส.) เสนอขออนุมัติเพิ่มวงเงิน และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดลพบุรี พร้อมบ้านพัก และสิ่งก่อสร้างประกอบ
สำหรับวาระเพื่อทราบที่น่าสนใจ ได้แก่
– กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวาของอ่างเก็บน้ำแม่กวง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ….
– สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม มาตรการป้องกันการทุจริตจากกระบวนการเบิกจ่ายยาตามสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ
– คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เสนอแนวทางเสริมสร้างศักยภาพการคลังท้องถิ่น (แบบประเมินสุขภาพการคลังท้องถิ่น)
– ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการปรับปรุง และจัดทำนโยบายอัตราค่าไฟฟ้าของกรรมาธิการพลังงาน วุฒิสภา
– ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาเรื่อง ทางเลือกเชิงนโยบายในการช่วยเหลือและสนับสนุนด้านการเงินแก่ผู้ประกันตนและนายจ้าง
– รายงานผลการดำเนินงาน เรื่อง ติดตามการใช้จ่ายเงินตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และติดตามการใช้จ่ายเงิน พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากโควิด-19 ระยะเวลาตั้งแต่ 1 ก.ค.63 – 31 ธ.ค.64
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ย. 65)
Tags: ครม., ประชุมครม.