เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล ขาย IPO 80 ล้านหุ้น คาดเข้าเทรด mai ธ.ค.นี้

นายพิศิษฐ์ อริยเดชวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล (SAF) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 80 ล้านหุ้น โดยคาดว่าจะสามารถเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ภายในเดือนธ.ค.65

สำหรับวัตถุประสงค์ในการเข้าระดมทุนครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้ลงทุนโครงการโรงงานและคลังสินค้าแห่งใหม่ ลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ลงทุนเตาชุบแข็งแบบไนไตรดิ้ง เพื่อให้บริการอบชุบได้อย่างครบวงจร และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการและดำเนินการอื่นๆ

สำหรับเป้าหมายในอีก 2 ปีข้างหน้า (ปี 66-67) บริษัทฯ ต้องการจะมียอดขายเติบโตเฉลี่ยประมาณ 23-28% ต่อปี ภายใต้แผนกลยุทธ์ ดังนี้

1. เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าเกรดพิเศษ ในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์และวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นฐานลูกค้าสำคัญที่เชื่อมั่นในคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ รวมถึงเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจอาหารที่มีโอกาสเติบโตสูง

2. พัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยต่อยอดวัตถุดิบเหล็กกล้าเกรดพิเศษมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป และขยายความร่วมมือกับพันธมิตรผ่านการจัดตั้งเครือข่ายหรือคลัสเตอร์สำหรับผู้ผลิตแม่พิมพ์และชิ้นส่วนโลหะต่างๆ

3. เพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตแปรรูปเหล็กกล้าเกรดพิเศษ ร่วมกับการให้บริการอบชุบสุญญากาศครบวงจร เพื่อให้ได้คุณภาพผลิตภัณฑ์สูงสุด

4. ขยายพื้นที่จัดเก็บวัตถุดิบ โดยลงทุนคลังสินค้าแห่งใหม่ รองรับความต้องการของลูกค้าที่สูงขึ้นและขยายฐานลูกค้าใหม่

5. มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันแก่ภาคอุตสาหกรรมไทย

6. สร้างการรับรู้แบรนด์ โดยสร้างการรับรู้และสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันให้แก่ SAF ในระยะยาว

ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้ บริษัทฯ จึงมีแผนลงทุนโครงการคลังสินค้าและโรงงานแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มปริมาณการจัดเก็บวัตถุดิบจาก 2,000 ตัน เป็น 4,000 ตัน คาดจะเริ่มก่อสร้างโครงการภายในปี 66 และมีแผนเปิดใช้งานภายในไตรมาส 2/66 เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและรองรับโอกาสการเพิ่มยอดขายในอนาคต ซึ่งการบริหารจัดการสินค้าคงคลังมีความสำคัญมาก เนื่องด้วยต้องมีการเก็บวัตถุดิบเหล็กกล้าเกรดพิเศษหลากหลายชนิด รวมถึงต้องมีสินค้าในคงคลังในปริมาณมากพอ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังวางแผนลงทุนระบบเตาชุบแบบไนไตรดิ้ง เพื่อให้บริการชุบได้อย่างครบวงจร ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าที่ซื้อเหล็กกล้าเกรดพิเศษมีความต้องการใช้บริการชุบแบบไนไตรดิ้งเป็นอย่างมาก เพราะทำให้เหล็กมีคุณสมบัติที่ดีขึ้น ทั้งความแข็งที่ผิวเหล็ก ความต้านทานการสึกหรอ และการกัดกร่อน เป็นต้น

ปัจจุบันฐานลูกค้าหลักของ SAF มาจาก 3 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ 1. กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ ประกอบด้วย ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อะไหล่ ล้อรถ อุปกรณ์เสริมยานยนต์ 2. กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ประกอบด้วย ผู้ผลิตวัสดุอุปกรณ์ที่ทำจากอลูมิเนียม ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ และผู้ผลิตเหล็กโครงสร้าง 3. กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เช่น ผู้ผลิตน้ำตาลทราย ธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหาร และเครื่องใช้ในครัวเรือน อีกทั้งยังมีรายได้จากกลุ่มอื่นๆ อาทิ ลูกค้ารับจ้างทำงานตามแบบ ลูกค้าผู้รับเหมาย่อย และลูกค้าซื้อมาขายไป โดยลูกค้าส่วนใหญ่มีการติดต่อซื้อขายต่อเนื่องเป็นเวลานาน มีประวัติชำระค่าสินค้าตรงเวลา และมีสถานภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง

ส่วนผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปี 65 รายได้ส่วนใหญ่มาจากผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าเกรดพิเศษสำหรับแม่พิมพ์งานอุตสาหกรรม สัดส่วน 72.66% ของรายได้รวม รายได้จากผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าเกรดพิเศษสำหรับเครื่องจักรกล สัดส่วน 17.27% ของรายได้รวม บริการชุบแข็งด้วยระบบสุญญากาศ คิดเป็นสัดส่วน 4.30% ของรายได้รวม และส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการขายอื่นๆ เช่น ใบเลื่อยสายพาน เครื่องเลื่อยสายพาน แม่พิมพ์ และชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ เป็นต้น โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 114.72 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 9.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.04 ล้านบาท จากการปรับราคาขายผลิตภัณฑ์ให้สูงขึ้นตามราคาเหล็กกล้าในตลาดโลก ประกอบกับความสามารถในการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ

นายคมกฤต มีคำสัตย์ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า แผนการระดมทุนเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ของ SAF ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะสร้างโอกาสเติบโตอย่างมั่งคงและยั่งยืน พร้อมยกระดับศักยภาพทางธุรกิจในทุกๆ ด้าน ทั้งฐานะทางการเงิน ความสามารถในการแข่งขัน และโอกาสการเติบโตในอนาคต ซึ่งเชื่อมั่นว่า SAF จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายของบริษัทเหล็กกล้าเกรดพิเศษชั้นนำระดับโลกจากประเทศเยอรมนี จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่แข่งขันได้ มีการต่อยอดรายได้บริการชุบเหล็กกล้าให้ครบวงจร โอกาสเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ ตลอดจนความเชี่ยวชาญมานานกว่า 30 ปี

SAF เตรียมที่จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นไม่เกิน 26.67% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ โดยจะแจ้งรายละเอียดราคาเสนอขาย ระยะเวลาการจองซื้อหุ้น เพิ่มเติมต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ย. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top