ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ หุ้นกลุ่มเดินทางหนุนตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (7 พ.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเดินทางและกลุ่มเทคโนโลยีได้ช่วยบดบังหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราที่พึ่งพาตลาดจีนอย่างมาก

  • ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 418.34 จุด เพิ่มขึ้น 1.36 จุด หรือ +0.33%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,416.61 จุด เพิ่มขึ้น 0.17 จุด หรือ +0.003%,
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,533.52 จุด เพิ่มขึ้น 73.67 จุด หรือ +0.55% และ
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,299.99 จุด ลดลง 34.85 จุด หรือ -0.48%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลสำรวจที่บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในยูโรโซนปรับตัวดีขึ้นในเดือนพ.ย. ซึ่งสะท้อนความหวังว่า อุณหภูมิที่อบอุ่นขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และราคาพลังงานที่ลดลงจะป้องกันการปันส่วนก๊าซในทวีปยุโรปในฤดูหนาวนี้

หุ้นฟลัทเทอร์ เอนเทอร์เทนเมนต์ และหุ้นไรอันแอร์ พุ่งขึ้น 4.2% และ 3.8% ตามลำดับ ซึ่งหนุนหุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการของยุโรปพุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน และดัชนีหุ้นกลุ่มนี้ปิดบวก 1.6%

หุ้นสายการบินไรอันแอร์พุ่งขึ้น หลังเปิดเผยผลกำไรหลังหักภาษีในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นมากที่สุด และคาดว่าจะกลับไปทำกำไรในระดับก่อนเกิดโรคโควิดระบาดได้ในปีนี้

แต่หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราของยุโรป อาทิ หลุยส์วิตตอง, เพอร์นอด ริคาร์ด และแอร์เมส อินเทอร์เนชันแนล ร่วง 0.7-1.5% ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับรายงานข่าวการพิจารณาเปิดประเทศของจีน

บรรดานักลงทุนจะจับตาการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในวันอังคารนี้ (8 พ.ย.) ซึ่งจะบ่งชี้ว่าพรรคใดจะได้ครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรส ขณะที่ผลสำรวจบ่งชี้ว่าพรรครีพับลิกันมีคะแนนนำพรรคเดโมแครตในผลสำรวจความเห็นของประชาชน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 65)

Tags: ,
Back to Top