สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างความเห็นของนักวิเคราะห์ว่า นักลงทุนที่ถือสกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์และเงินบาทของไทยอาจเผชิญกับการขาดทุนหากเงินหยวนของจีนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์ อันเนื่องมาจากจีนยังคงยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid Policy)
รายงานระบุว่า สกุลเงินบาทและดอลลาร์สิงคโปร์ปรับตัวตามค่าเงินหยวนในตลาดออฟชอร์เป็นเวลานานถึง 3 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่า ทั้งเงินบาทและดอลลาร์สิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะถูกฉุดลงอีกหากเงินหยวนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
ทางด้านธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ออกมาเคลื่อนไหวในวันนี้ เพื่อยุติการกำหนดเงินหยวนให้แข็งค่ามากกว่าการคาดการณ์หลังจากที่ได้ดำเนินการดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนส.ค.ปีนี้ ซึ่งทำให้เทรดเดอร์คาดว่า จีนกำลังลดการพยุงค่าเงินหยวน
ค่าเงินหยวนในตลาดออนชอร์และออฟชอร์ปรับตัวลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ในเอเชีย หลังจากนายหู เซียง เจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 พ.ย.) ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วประเทศทำให้จีนยังคงต้องยึดมั่นต่อนโยบายโควิดเป็นศูนย์
ทั้งนี้ คาดว่าสิงคโปร์ซึ่งมีระบบเศรษฐกิจแบบเปิดที่ต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก จะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ในขณะที่การขาดแคลนนักท่องเที่ยวชาวจีนจะส่งผลกระทบกับค่าเงินบาทของไทย เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวจีนมีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในอัตราส่วน 20% ของเศรษฐกิจในช่วงก่อนที่โรคโควิด-19 จะแพร่ระบาด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 65)
Tags: ดอลลาร์สิงคโปร์, เงินบาท