KLINIQ ปิดเช้าวันแรกอยู่ที่ 38.50 บาท เพิ่มขึ้น 14.00 บาท (+57.14%) สูงจาก IPO 24.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 3,935.48 ล้านบาท จากราคาเปิด 36.00 บาท ราคาสูงสุด 41.25 บาท ราคาต่ำสุด 35.50 บาท
นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม (KLINIQ) เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการปี 65 ของบริษัทมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และถือว่ามีการเติบโตมากกว่าแผนที่วางไว้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายสาขาไปแล้ว 6 แห่ง ทำให้สามารถบริการลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ไปใช้ในการขยายสาขาคลินิกเวชกรรมราว 6-10 สาขาต่อปี ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ หัวเมืองหลัก และหัวเมืองรอง โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนขยายคลินิกเวชกรรมและจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์เพิ่มเติมประมาณ 950 ล้านบาท คาดว่าจะคืนทุนภายใน 2-3 ปี ส่วนศูนย์ศัลยกรรมจะใช้เงินลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท คาดว่าจะคืนทุนภายใน 3-4 ปี
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างทบทวนเป้าหมายการเติบโตของผลประกอบการในปี 66 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด หลังจากบริษัทได้เงินจากการระดมทุนส่งผลให้การเติบโตได้รวดเร็วกว่าช่วงก่อนหน้านี้ที่บริษัทมีการเติบโตจากการใช้เงินทุนของตัวเองทั้งหมด โดยจะมีการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น และบริการเกี่ยวเนื่องอื่น รวมถึงการจำหน่ายยาและเวชสำอาง ทำให้มีรายได้เติบโตที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณาลงทุนในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพในตลาดความสวยความงาม สะท้อนจากสาขาอุดรธานี ที่มีชาวสปป.ลาวข้ามชายแดนมาใช้บริการจำนวนมาก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 65)
Tags: IPO, KLINIQ, หุ้นไทย, อภิรุจ ทองวัฒน์, เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม