สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างคาดการณ์จากบริษัทเคปเลอร์ (Kpler) ว่า การจัดส่งน้ำมันดิบจากสหรัฐไปยังเอเชียจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) ในเดือนพ.ย. เนื่องจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากการลดราคาน้ำมันทั่วโลก
โรงกลั่นน้ำมันในจีน อินเดีย และเกาหลีใต้ เริ่มกลับมาเป็นผู้ซื้อน้ำมันดิบรายใหญ่ของสหรัฐ หลังจากซื้อน้ำมันราคาถูกจากรัสเซียตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา การกลับมาซื้อน้ำมันจากสหรัฐอีกครั้งของเอเชียในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้นเพื่อใช้ผลิตเชื้อเพลิงดีเซล และเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยุโรปยังคงเร่งกักตุนน้ำมันอย่างต่อเนื่อง หลังชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย
โดยรวมพบว่า ยอดส่งออกน้ำมันดิบสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่ 5.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน แตะระดับสูงสุดเมื่อเทียบเป็นรายสัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ที่สูงขึ้น
ด้านรีฟินิทิฟ (Refinitiv) ระบุว่า เกาหลีใต้เตรียมนำเข้าน้ำมันดิบสหรัฐ 619,000 บาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขึ้นแท่นผู้นำเข้าน้ำมันดิบสหรัฐรายใหญ่ที่สุดของเอเชียประจำเดือนพ.ย.
ด้านจีนตั้งเป้านำเข้าน้ำมันดิบอย่างน้อย 450,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 ขณะเดียวกัน คาดว่าอุปสงค์ด้านพลังงานของอินเดียจะสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 พ.ย. 65)
Tags: น้ำมันดิบ, นำเข้าน้ำมัน, สหรัฐ, เอเชีย