- ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,625.02 จุด ลดลง 0.71 จุด (-0.04%) มูลค่าการซื้อขาย 66,481.75 ล้านบาท
- การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวแคบๆทั้งแดนบวกและลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,630.56 จุด และระดับต่ำสุด 1,622.30 จุด
- ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 541 หลักทรัพย์ ลดลง 1,001 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 650 หลักทรัพย์
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวลักษณะแกว่งตัวออกด้านข้าง ระหว่างที่นักลงทุนรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คืนนี้ ซึ่งตลาดคาดเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% แต่ที่สำคัญคือรอติดตามว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะส่งสัญญาณชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปหรือไม่
หากการประชุมครั้งนี้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% และส่งสัญญาณไม่เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งถัดไปแล้วตามที่ตลาดคาด ก็จะส่งผลดีสินทรัพย์เสี่ยง เงินดอลลาร์น่าจะอ่อนค่า ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนนักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง แต่หากไม่ได้ออกมาตามที่ตลาดคาดอาจมีแรงขายทำกำไรออกมา
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวก็เป็นปัจจัยหนุนภาพระยะกลาง แต่ระยะสั้นอาจมีแรงขาย อย่างไรก็ดี มองว่าหากยืนระดับ 1,610 จุดได้ก็น่าจะไปต่อได้
แนวโน้มวันพรุ่งนี้ หากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยตามตลาดคาดก็จะปรับขึ้นมาได้ แต่ถ้าไม่เป็นไปตามคาดอาจมีแรงขายออกมา โดยให้แนวรับสำคัญที่ 1,610 จุด แนวต้านที่ 1,640 และ 1,650 จุด
นอกจากนั้น ยังมีประเด็นที่ตลาดต้องติดตาม คือ การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของไทยเดือน ต.ค.65 ในวันที่ 4 พ.ย.นี้ ตลาดคาดไว้ที่ 6% ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยเชื่อว่าเงินเฟ้อจะเริ่มทยอยลดลงอย่างต่อเนื่อง และมีความมั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวชัดเจนขึ้น รวมทั้งยังมีปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ คือ การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในสัปดาห์หน้า
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
- BTG มูลค่าการซื้อขาย 8,716.11 ล้านบาท ปิดที่ 36.25 บาท ลดลง 3.75 บาท
- AAI มูลค่าการซื้อขาย 3,412.59 ล้านบาท ปิดที่ 7.85 บาท ลดลง 1.05 บาท
- PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,427.70 ล้านบาท ปิดที่ 186.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
- AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,177.53 ล้านบาท ปิดที่ 74.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
- PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,154.22 ล้านบาท ปิดที่ 36.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 พ.ย. 65)
Tags: SET, SET Index, ณรงค์เดช จันทรไพศาล, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย