นายจาง ชาย ชิง ประธานบริหาร บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/65 คาดว่าจะได้รับโมเมมตัมเชิงบวกต่อเนื่องจากงวด 9 เดือนแรกปี 65 ที่ยอดขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเติบโตถึง 25% โดยผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะเร่งตัวขึ้นมากกว่าครึ่งปีแรก หลังจากปัจจัยจีนล็อกดาวน์ประเทศผ่อนคลายลงไปบ้าง ปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบหลายตัวมีแนวโน้มคลี่คลาย ยกเว้นเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้บริษัทเร่งการผลิตได้ในช่วงครึ่งปีหลัง
ประกอบกับค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น โดยหากเงินบาทอ่อนค่าทุก 1 บาท/ดอลลาร์ จะมีผลต่ออัตรากำไรขั้นต้นของ DELTA ดีขึ้น 1% ทั้งนี้บริษัทยังคงประมาณการรายได้ในปี 65 เติบโต 10-20%
ส่วนในปี 66 คาดว่าจะเติบโต double digit จากความต้องการสินค้าต่อเนื่อง โดยเฉพาะแนวโน้มของการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้ธุรกิจเกี่ยวข้อง Data Center จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องได้ แต่ก็ยังมีข้อกังวล ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อสูง จะกระทบกำลังซื้อของผู้บริโภค อาจจะต้องระวังว่าส่วนนี้อาจจะไม่ได้เติบโตอย่างแข็งแรงมากนัก รวมถึงต้องระวังปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบที่อาจยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
สำหรับการซื้อที่ดิน 37 ไร่ในนิคมอุตสาหกรรมบ้านปู จ.สมุทรปราการ มูลค่า 380 ล้านบาทนั้น บริษัทเตรียมไว้เพื่อขยายการลงทุนรองรับกลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งเติบโตเร็วกว่าคาดการณ์ไว้ และปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบคลี่คลายลง ทำให้บริษัทตัดสินใจเริ่มวางแผนขยายกำลังการผลิต รวมทั้งเพื่อรองรับกับธุรกิจ Data Center และศักยภาพการพัฒนาด้านวิศวกรรมศาสตร์ในไทย รวมถึงขยายคลังสินค้าและโลจิสติกส์เพื่อรองรับการเติบโตของภาพรวมบริษัท
ด้านต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นเป็นไปตามสถานการณ์ตลาด ซึ่งได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด ขณะที่เน้นการทำงานร่วมมือกับพันธมิตรในการประมาณการร่วมกันเพื่อวางแผนการจัดหาวัตถุดิบ ที่ผ่านมาก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง หรือการจัดซื้อร่วมกับบริษัทในไต้หวัน ก็ทำให้บริษัทสามารถได้รับการสนับสนุนเรื่องวัตถุดิบที่สำคัญ เช่นตัว IC , เซมิคอนดักเตอร์ , Chip
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 พ.ย. 65)
Tags: DELTA, ผลประกอบการ, หุ้นไทย, เดลต้า อีเลคโทรนิคส์