นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.65) อยู่ที่ 150.24 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.5% โดยการใช้กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้น 18.5% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้น 84.0% น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 19.2% LPG เพิ่มขึ้น 8.9% และการใช้ NGV เพิ่มขึ้น 9.5% การใช้กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 5.4% ขณะที่น้ำมันก๊าดลดลง 8.1%
ทั้งนี้ ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 มีแนวโน้มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี ประกอบกับมีการดำเนินมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องส่งผลให้สามารถผ่อนปรนมาตรการและข้อจำกัดต่างๆ ได้ นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวยังเป็นปัจจัยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้น
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 65 การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเฉลี่ยอยู่ที่ 29.92 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.4% สำหรับการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ อี85 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.01 ล้านลิตร/วัน 15.91 ล้านลิตร/วัน และ 0.92 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 และเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 5.54 ล้านลิตร/วัน และ 0.53 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ
การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเฉลี่ยอยู่ที่ 72.41 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 18.5% การใช้ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากมาตรการช่วยเหลือโดยตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30-35 บาท/ลิตร ของมาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกมีความผันผวนสูง รวมทั้งปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นจากภาคไฟฟ้า สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 การใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 63.70 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลพื้นฐานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.93 ล้านลิตร/วัน ขณะที่น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 2.58 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้ 0.19 ล้านลิตร/วัน
การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 7.94 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 84.0% เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการการบินและการเดินทางเข้า – ออกประเทศ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น
การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 18.05 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.9% เนื่องจากการใช้ในทุกภาคเพิ่มขึ้น โดยภาคขนส่งอยู่ที่ 2.16 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 28.4% ภาคปิโตรเคมีอยู่ที่ 8.13 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 8.6% ภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 2.04 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 11.5% และภาคครัวเรือนอยู่ที่ 5.72 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 2.4%
การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.40 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.5% อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับช่วง 8 เดือนแรก (ม.ค.-ส.ค.65) พบว่ายังคงทรงตัวในระดับเดิม
การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 1,034,357 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.2% เนื่องจากความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น โดยการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 964,658 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 12.9% โดยมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 111,107 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้น 100.8% สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 69,699 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 94.8% คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 5,909 ล้านบาท/เดือน
การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกอยู่ที่ 164,808 บาร์เรล/วัน ลดลง 36.8% คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 21,296 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้น 11.0%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 พ.ย. 65)
Tags: กรมธุรกิจพลังงาน, น้ำมัน, น้ำมันเชื้อเพลิง