โบรกเกอร์ในตลาดปริวรรตเงินตราของญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะประกาศในวันนี้ว่าทางรัฐบาลได้ใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากไปกับการแทรกแซงตลาดในเดือนต.ค.เพื่อพยุงเงินเยน โดยคาดว่าเม็ดเงินดังกล่าวจะอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาดูแนวโน้มต่าง ๆ ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงค่าเงินเพิ่มอีกมากน้อยเพียงใดเพื่อพยุงเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างมาก
การประมาณการจากบรรดาโบรกเกอร์ในตลาดปริวรรตเงินตราญี่ปุ่นบ่งชี้ว่า มีแนวโน้มที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะใช้จ่ายเงินมากเป็นประวัติการณ์ถึง 5.4 ล้านล้านเยน (2.49 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วงการซื้อขายสองวันติดกันเพื่อแทรกแซงค่าเงินโดยไม่ประกาศล่วงหน้า ในระหว่างวันที่ 21-24 ต.ค. เพื่อพยุงค่าเงินเยนที่ร่วงลงแตะระดับ 151.94 เยนต่อดอลลาร์ในวันที่ 21 ต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 32 ปี
หากเป็นไปตามคาดการณ์ดังกล่าว เม็ดเงินที่ใช้ในการแทรกแซงตลาดจะมากเกือบ 2 เท่าของจำนวนเงิน 2.8 ล้านล้านเยนที่ญี่ปุ่นใช้ในเดือนก.ย.ในการแทรกแซงตลาดด้วยการซื้อเงินเยน-เทขายดอลลาร์ครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี
การแทรกแซงค่าเงินครั้งล่าสุดช่วยให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงกว่า 7 เยน แต่เงินเยนยังคงเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยใหม่ ๆ รวมถึงการพุ่งขึ้นของดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐ โดยดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของดัชนี PCE เดือนก.ย.ของสหรัฐได้ส่งผลกระทบต่อการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงยึดมั่นกับนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ
ด้านสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีกครั้งในการซื้อขายวันนี้ (31 ต.ค.) โดยแข็งค่าขึ้น 0.44% แตะที่ 148.08 เยน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ต.ค. 65)
Tags: ค่าเงินเยน, ญี่ปุ่น, โบรกเกอร์