นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า กรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงมหาดไทย ปลดล็อกต่างชาติสามารถซื้อบ้าน-ถือครองที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ แลกการลงทุนในไทยขั้นต่ำ 40 ล้านบาทนั้น ในภาพรวมเห็นว่าเป็นนโยบายที่น่าสนใจ เพราะจะเป็นจุดดึงดูดทุนจากต่างประเทศเข้าในประเทศไทย และคนต่างชาติเองก็จะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ดังนั้นมุมทางเศรษฐกิจในระยะสั้นก็จะมีเงินเข้ามาจากการซื้อที่ดิน ที่อยู่อาศัย และในระยะยาวก็มาจากการจับจ่ายใช้สอย รวมทั้งการใช้ทักษะ ความรู้ความสามารถมาสร้างงงาน สร้างโอกาสในบ้านเราด้วย
หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นธรรมดาที่หลายคนอาจจะกังวลในแง่ของผลข้างเคียงว่าต่างชาติจะมาแย่งซื้อที่ซื้อบ้านจากคนไทยหรือไม่ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ ครม.ได้วางกรอบกติกาเพื่อที่จะจำกัดผลค้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น การที่ระบุว่า ต่างชาติที่สนใจจะเข้ามาซื้อที่ดิน หรือที่อยู่อาศัย ต้องมีเงินลงทุนผูกพันในประเทศไทยอย่างน้อย 3 ปี เป็นวงเงิน 40 ล้านบาท ซึ่งก็สะท้อนให้เห็นว่า ตัวมูลค่าสินค้า บ้านและที่ดินในราคาค่อนข้างสูง จะเป็นคนละตลาดกับการซื้อขายบ้านทั่วไป
นอกจากนี้ กฎหมายยังจำกัดพื้นที่ในการซื้อที่ดิน ที่อยู่อาศัยเฉพาะในเขตเทศบาลเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้แย่งซื้อกับชาวบ้าน เกษตรกร ที่อยู่นอกเขตเทศบาล และการที่รัฐบาลจำกัดเวลาการทบทวนใน 5 ปี ก็ชี้ให้เห็นหลักคิดในเชิงแซนด์บ๊อกซ์ คือทดลองทำดู เรื่องนี้พูดกันมานานมาก ถกเถียงกันมาไม่มีข้อสรุป รัฐบาลเลยให้ลองดู 5 ปี หากมีข้อเสียมากกว่าข้อดี ก็สามารถยกเลิกกฎหมายได้ตามความเหมาะสม ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าเป็นแนวทางที่ดี แต่ก็ต้องคอยดูว่าจะเป็นอย่างไร
“เราต้องอย่าลืมว่า ในบริบทสังคมไทยเราได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประชากรเริ่มมีแนวโน้มลดลง เพราะฉะนั้นการเปิดโอกาสให้ต่างชาติที่มีเงิน มีทักษะ เข้ามาทำงาน หรือตั้งรกราก เปิดกิจการในประเทศไทย หรือ Work from Thailand มากขึ้น จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ที่มีคนพูดถึงกันอยู่แล้ว และในบริบททั้งหมดที่เกิดขึ้น จึงเป็นจังหวะที่เหมาะสมที่จะทดลองนโยบายนี้” นายกรณ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลออกมาตรการมาแล้ว ในช่วงการพิจารณารายละเอียดก็ควรฟังความกังวลของประชาชน และวิธีที่จะสร้างความเป็นธรรม ซึ่งวิธีการที่จะคลี่คลายความกังวล คือ ปรับโครงสร้างภาษีให้มีความเป็นธรรมกับทุกฝาย ไม่ใช่ฝั่งของเจ้าของที่ดินเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งภาษีจากการซื้อขายที่ดิน ที่อยู่อาศัย เป็นธุรกิจเฉพาะจะมีค่าอากรแสตมป์ 3% ตรงนี้ก็แล้วแต่ว่าจะเป็นภาระของผู้ซื้อหรือไม่ แต่โดยทั่วไปแล้วภาษีควรต้องจ่ายโดยผู้ที่มีกำไร คือผู้ที่มีทรัพย์สิน และขายทรัพย์สินให้กับต่างชาติที่ได้โอกาสจากการทำกำไร เรื่องราวเหล่านั้นต้องพิจารณาด้วย เพราะมาตรการภาษีโดยรวม จะมีเม็ดเงินกลับเข้ามาในส่วนของรัฐบาลเพื่อที่จะนำไปสร้างประโยชน์ให้ประชาชนในวงกว้างได้มาก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ต.ค. 65)
Tags: กรณ์ จาติกวณิช, คนต่างชาติ, ซื้อที่ดิน, ซื้อบ้าน, ถือครองที่ดิน, พรรคชาติพัฒนากล้า