นายมาร์ก โมเบียส นักลงทุนตลาดเกิดใหม่ผู้มากประสบการณ์และผู้ก่อตั้งบริษัทโมเบียส แคปิตอล พาร์ทเนอร์ส ออกมาแสดงความเห็นว่า จีนมีแนวโน้มที่จะผ่อนปรนการบังคับใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid Policy) ภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังมีปัญหา และรัฐบาลจำเป็นต้องใช้เงินอย่างมาก
“ผมไม่คิดว่าโควิด-19 จะเป็นปัญหาในอนาคต เนื่องจากจีนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปิดเมือง เพื่อรับประกันวาเศรษฐกิจจะขับเคลื่อนไปได้ โดยอาจมีการยึดมั่นต่อนโยบายในเชิงวาจา แต่การลงมือปฏิบัติจริงนั้นจะแตกต่างออกไป”
นายโมเบียสกล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 ที่เพิ่งปิดฉากลงเมื่อไม่นานมานี้แทบไม่ส่งสัญญาณว่าจีนจะยุตินโยบายโควิดเป็นศูนย์เมื่อใด หลังจากนโยบายดังกล่าวได้บั่นทอนการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนและทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกชะงักงัน
จีน ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับสองของโลก ต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการที่เมืองขนาดใหญ่ที่มีประชากร 20 ล้านคนอาศัยอยู่ต้องเผชิญกับการล็อกดาวน์แบบกระทันหันโดยแทบจะไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า
ขณะนี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตเพียง 3.3% ในปี 2565 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายอย่างเป็นทางการที่รัฐบาลตั้งเป้าเอาไว้เมื่อช่วงต้นปีนี้ที่ประมาณ 5.5% อย่างมาก
นายโมเบียสมีมุมมองเชิงลบมากขึ้นต่อจีนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่เพิ่มความเป็นผู้นำและอำนาจควบคุมให้กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
“ผมวิตกกังวลว่าจีนจะกดดันภาคเอกชนและหันมาสนับสนุนองค์กรที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อนวัตกรรมและการสร้างสรรค์ในเศรษฐกิจ”
นายโมเบียสกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ต.ค. 65)
Tags: Zero-Covid, จีน, มาร์ก โมเบียส, โควิดเป็นศูนย์