หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้า Sideway down หวั่นเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยหลัง GDP สหรัฐดีกว่าคาด

นักวิเคราะห์คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัว Sideway down จากตัวเลขจีดีพีของสหรัฐออกมาดีกว่าคาด อาจทำให้เฟดส่งสัญญาณแร่งขึ้นดอกเบี้ย และกำไรบจ.สหรัฐ โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีไม่ดีทำให้ Sentiment ตลาดหุ้นโลกไม่ดี ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ และจีดีพี ของเยอรมัน, ฝรั่งเศส และสเปน หากเงินเฟ้อออกมาสูง จีดีพีก็จะวิตกภาวะเศรษฐกิจถดถอย พร้อมให้แนวต้านที่ 1,612 จุด หากผ่านไปได้เป็นสัญญาณตลาดไปต่อ ส่วนแนวรับที่ 1,597 จุด แนะเล่นรายตัวตามผลประกอบการ

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า แนวโน้มดลาดหุ้นไทยเช้านี้ น่าจะแกว่งตัว Sideway down เนื่องจากตัวเลขจีดีพีของสหรัฐออกมาดีกว่าคาด อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ย และจับตากำไรบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีที่ออกมาไม่ดี ทำให้ Sentiment ตลาดหุ้นทั่วโลกไม่ดี

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยวานนี้ มีแรงเก็งกำไรจากเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม โดยตลาดหุ้นอื่นปรับตัวขึ้นดีจากก่อนหน้าปรับตัวลงแรง แต่หุ้นไทยสวนตลาดอื่น ทำให้วานนี้ตลาดหุ้นไทยแกว่งในกรอบ

วันนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คาดไม่มีประเด็นอะไร และประกาศตัวเลขเงินเฟ้อและจีดีพี ของเยอรมัน , ฝรั่งเศส และสเปน หากเงินเฟ้อออกมาสูง และการเติบโตจีดีพีต่ำ ก็จะกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย

พร้อมให้แนวต้านที่ 1,612 จุด หากผ่านไปได้เป็นสัญญาณตลาดไปต่อ ส่วนแนวรับที่ 1,597 จุด แนะเล่นรายตัวตามผลประกอบการ

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (27 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,033.28 จุด เพิ่มขึ้น 194.17 จุด หรือ +0.61%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,807.30 จุด ลดลง 23.30 จุด หรือ -0.61% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,792.67 จุด ลดลง 178.32 จุด หรือ -1.63%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,097.38 จุด ลดลง 247.86 จุด หรือ -0.9%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 15,424.94 จุด ลดลง 3 จุด หรือ -0.02% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,967.02 จุด ลดลง 15.88 จุด หรือ -0.53%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 ต.ค.65.) ที่ระดับ 1,602.33 จุด เพิ่มขึ้น 5.87 จุด, +0.37%
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,429.82 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ต.ค.65
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค. (27 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 89.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 ต.ค.) อยู่ที่ 2.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 37.80 ทิศทาง sideway คาดกรอบวันนี้ 37.65 – 37.90
  • มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42 คึกคัก รับสัญญาณบวก นายกสมาคม คอนโดฯ ระบุผลจาก LTR-ปลดล็อกต่างชาติ ซื้อบ้านที่ดินหนุนตลาดอสังหาฯ ปีหน้าฟื้น คาดมูลค่า 4.5 แสนล้าน เล็งขอรัฐช่วยกระตุ้น ขยายเพดานราคาขายบ้าน BOI 1.4 ล้าน หวังรองรับกำลังซื้อคนรุ่นใหม่ ลดค่าธรรมเนียมโอน พร้อมขยายเพดานไปที่ 5 ล้านบาท ลดภาษีที่ดิน แนะลูกค้ารีบตัดสินใจซื้อก่อนปีหน้าปรับราคาขึ้น 10%
  • พลังงานเตรียมชง กพช.เคาะมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาพลังงานเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย เดินหน้าอุ้มผู้ใช้ไฟรายย่อย 300-500 หน่วยต่อเดือน พร้อมกางแผนบริหารหวังคุมค่าไฟไม่ให้เกิน 4.72 บาทต่อหน่วย แย้มอาจมีข่าวดีตรึงค่าไฟงวดใหม่ (ม.ค.-เม.ย. 66) จาก กกพ.
  • ผู้ว่าฯ ธปท.เผยเศรษฐกิจไทยปีหน้าในภาพรวมยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ลุ้นปัจจัยเสี่ยงกระทบให้การท่องเที่ยวสะดุด ย้ำไทยไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ รับกังวลธนาคารกลางหลักๆ เร่งขึ้นดอกเบี้นสกัดเงินเฟ้อเกินจำเป็นสร้างความปั่นป่วนเศรษฐกิจโลกรอบใหม่ นับค่าบาทผันผวน แต่ยังไม่มีความผิดปกติของเงินทุน กระตุ้นเอสเอ็มอีทำประกันความเสี่ยงค่าเงิน
  • ธปท.เร่งถกแบงก์หาทางช่วยลูกค้ายืนยันตัวตนก่อนฝากเงิน หลัง ปปง.เตรียมงัดกฎหมายให้ประชาชนใช้บัตรเดบิต-บัตรเอทีเอ็ม-บัตรเครดิต ก่อนฝากเงิน ชี้ใช้บัตรประชาชนอาจเพิ่มต้นทุน หวั่นบัตรหาย

หุ้นเด่นวันนี้

  • DOHOME (ฟินันเซีย ไซรัส) “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 15 บาท เรามองข้ามกำไรครึ่งปีหลังปี 65 (2H22)ที่อ่อนแอจากทั้งราคาเหล็กที่กดดันทั้งยอดขายและ Margin รวมถึงผลกระทบจากน้ำท่วมในสาขาอุบลราชธานี แต่มีประกัน All Risk Insurance คุ้มครอง กำไรจะผ่านจุดต่ำสุดใน 2H22 โดยภาพทั้งปีเราประเมินกำไรจะลดลง -45% ตามปัจจัยที่กล่าวข้างต้น แต่คาดหวังการฟื้นตัวในปี 66 อย่างมีนัยสำคัญ +50% ในปี 2566 ราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบไปมากพอสมควร มีโอกาสฟื้นตัวระยะสั้น
  • TILDOR (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 28.00 บาท คาดราคาหุ้นมีโอกาส Bottom out ฟื้นตัวตามตลาด หลังกลุ่มการเงินปรับฐานสะท้อนความเสี่ยงกว่า 1 ปี TIDLOR ปรับฐาน YTD กว่า -33.6% ลุ้นกำไรไตรมาส 3/65 เติบโต +16YoY ที่ 743 ลบ. แต่ลบเล็กน้อย -4%QoQ หนุนด้วยสินเชื่อที่เติบโต พร้อมกับรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 3.8 พัน ลบ. และ 4.76 พัน ลบ. +20%YoY, +25%YoY ตามลำดับ
  • BAFS(คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 34.25 บาท BAFS เป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากแผนการเปิดประเทศและความหวังจากกิจกรรมทางด้านการบินที่ทยอยฟื้นตัว โดยในปี 65 ผู้บริหารคาดว่าปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานมีโอกาสทะลุเป้าหมายเดิมที่ 3 พันล้านลิตร หลังจากช่วง 7 เดือนแรก 1.21 พันล้านลิตร แนวโน้มไตรมาส 3/65 คาดขาดทุนลดลง และมีโอกาสพลิกกำไรเล็กน้อยในไตรมาส 4/65 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นท่องเที่ยวไทย ส่วนธุรกิจธุรกิจการให้บริการขนส่งน้ำมันทางท่อ (NFPT) คาดว่าปีนี้จะมีปริมาณขนส่งน้ำมัน 506 ล้านลิตร เติบโต 53%YoY ตามความต้องการใช้น้ำมันเริ่มกลับมาอย่างต่อเนื่อง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ต.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top