ไทย-ออสเตรเลีย เซ็น MOU จัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย ในการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยจะมีพิธีลงนามร่างบันทึกความเข้าใจในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ณ ทำเนียบรัฐบาล

สำหรับร่างบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ 5 ปี จัดทำขึ้นเพื่อสร้างกรอบความร่วมมือระหว่างภาคีที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ร่วมกันในการต่อต้านกับการค้ามนุษย์และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้อง ผ่านศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ ที่จัดตั้งขึ้นในไทย (คาดว่าจะจัดตั้ง ณ อาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง) โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

1) สนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในไทยและประเทศสมาชิกอาเซียน ในการเสริมสร้างทักษะการป้องกัน การตรวจสอบ และการดำเนินคดีกับการค้ามนุษย์และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้อง

2) เสริมสร้างขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ ในการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย ความร่วมมือการสืบสวนข้ามชาติ และการแบ่งปันข่าวกรอง เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้อง

3) ส่งเสริมการแบ่งปันความรู้ และการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ในการต่อต้านการค้ามนุษย์ และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องระหว่างคู่ภาคีและภายในภูมิภาคอาเซียน

น.ส.รัชดา กล่าวด้วยว่า ทั้ง 2 ประเทศ จะขับเคลื่อนความร่วมมือผ่านการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อขับเคลื่อนศูนย์ความเป็นเลิศฯ ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนระดับอาวุโสของภาคีแต่ละฝ่าย และผู้แทนอื่น ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยฝ่ายออสเตรเลีย จะให้การสนับสนุนด้านเลขานุการ พร้อมทั้งกำหนดให้มีการประชุมร่วมกันอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อการตัดสินใจกำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์ และการกำกับดูแลของศูนย์ความเป็นเลิศฯ

ส่วนการสนับสนุนของคู่ภาคีนั้น ฝ่ายไทยจะสนับสนุนด้านการปฏิบัติงาน และงบประมาณสำหรับที่ตั้ง และสิ่งอำนวยความสะดวกทางกายภาพของศูนย์ความเป็นเลิศฯ พร้อมทั้งจัดหาทรัพยากรมนุษย์ และงบประมาณในการจัดการ รวมถึงโครงการและค่าใช้จ่ายในการจัดหลักสูตรฝึกอบรมและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยมีกระทรวงยุติธรรม เป็นหน่วยประสานงาน ส่วนฝ่ายออสเตรเลีย จะให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคเพื่อกำหนดหลักสูตรและพัฒนานโยบายขั้นตอนการปฏิบัติงาน ของศูนย์ความเป็นเลิศฯ โดยมีกระทรวงการต่างประเทศและการค้า เป็นหน่วยประสานงาน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ต.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top