บมจ. เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) ชี้แจงผลประกอบการไตรมาส 3/65 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายเท่ากับ 37,943 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากการปรับราคาสินค้าให้สะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น การเติบโตของธุรกิจเยื่อและกระดาษ (Fibrous Business) ซึ่งมีส่วนสำคัญจากการเพิ่มขึ้นของราคาเยื่อกระดาษ และความต้องการบรรจุภัณฑ์อาหารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการขยายธุรกิจจากการควบรวมกิจการ Peute Recycling B.V. (Peute) ประเทศเนเธอร์แลนด์ และ Jordan Trading Inc. (Jordan) ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้มีการรวมงบการเงินของทั้งสองกิจการในงบการเงินรวมของ SCGP ตั้งแต่เดือน ก.ค. และเดือน ก.ย.65 ตามลำดับ
ในส่วนของ EBITDA เท่ากับ 5,483 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA margin ที่ 14% กำไรสำหรับงวดเท่ากับ 1,837 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิ 5% โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายกิจการที่กล่าวถึงข้างต้น อุปสงค์ของกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) และสินค้าอุปโภคบริโภคในภูมิภาคอาเซียนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงรายการปรับปรุงที่นอกเหนือจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่จากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
และหากเปรียบเทียบกับช่วงไตรมาสที่ผ่านมา รายได้จากการขายและ EBITDA คงที่ กำไรสำหรับงวดลดลง 1% ในขณะที่ Core EBITDA และ Core Profit ลดลง เนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงทั่วทั้งอุตสาหกรรมส่งผลให้ปริมาณการขายในภาพรวมลดลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ต.ค. 65)
Tags: SCGP, ผลประกอบการ, หุ้นไทย, เอสซีจี แพคเกจจิ้ง