นางสาวรินใจ ชาครพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 66 เตรียมที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มอีก 2 สินค้า ซึ่งจะอยู่ในกลุ่มของ FX Futures ที่มีเงินบาทเป็นคู่สัญญาในการซื้อขาย เพื่อที่จะเป็นการรองรับค่าเงินทั่วโลกที่มีความผันผวนค่อนข้างมาก ซึ่งมีผลต่อการดำเนินงานของภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าส่งออกโดยต้องมีการคำนึงถึงการจัดการความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน ในด้านของผู้ลงทุนและผู้ค้านับเป็นโอกาสในการซื้อขายเพื่อที่จะทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของค่าเงินได้ด้วย
สินค้า FX Futures อีก 2 สินค้า ได้แก่ EUR/USD Futures หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนเงินยูโรต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ และ USD/JPY Futures หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐต่อเงินเยน โดยทั้ง EUR/USD Futures และ USD/JPY Futures จะเสนอราคาซื้อขายเป็นสกุลเงินต่างประเทศ แต่ใช้เงินบาทในการวางหลักประกันเพื่อซื้อขายและคำนวณกำไรขาดทุน
ทั้งนี้ EUR/USD Futures มีตัวคูณราคา (Multiplier) เท่ากับ 30,000 และ USD/JPY Futures มีตัวคูณราคาเท่ากับ 300 ซึ่งสินค้าใหม่ทั้ง 2 สินค้านี้จะสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการตั้งแต่ 9.15-23.55 น. เริ่ม 31 ต.ค. 65 เป็นต้นไป
นางสาวรินใจ กล่าวว่า ในข่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมามีปริมาณการซื้อขายสัญญา FX Futures เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 35,000 สัญญา จากปี 64 ที่มีการซื้อขายเพียง 14,000 สัญญา เห็นได้ว่าเป็นที่นิยมมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากค่าความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้นถึง 29%
ความผันผวนของค่าเงินทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมามีปัจจัยเข้ามากระทบหลายด้าน ทั้งการใช้นโยบายทางการเงินที่แตกต่างกันทั่วโลก การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้อเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และ ความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์
“การเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่เกี่ยวเนื่องกับอัตราแลกเปลี่ยนนั้นเพื่อที่จะเป็นการกระจายความเสี่ยงให้กับนักลงทุน ช่องทางหาผลตอบแทนเพิ่มจากความผันผวนที่มากขึ้น และ ผู้ประกอบการที่ต้องการจำกัดความเสี่ยงของความผันผวนของค่าเงินทั่วโลก โดยหลังจากนี้จะทยอยมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง”นางสาวรินใจ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 65)
Tags: Forex, FX Futures, TFEX, ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า, รินใจ ชาครพิพัฒน์, อัตราแลกเปลี่ยน