กลุ่มตัวแทนสภาองค์กรผู้บริโภค พร้อมด้วย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.พรรคก้าวไกล เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตั้งแต่เช้าของวันนี้ เพื่อร่วมสังเกตการณ์การประชุมคณะกรรมการ กสทช.นัดพิเศษที่จะมีการพิจารณาคำขอควบรวมระหว่าง บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC)
นายธนาธร ประกาศเข้าร่วมกับองค์กรภาคประชาชนคัดค้านการควบรวมกิจการ TRUE-DTAC เนื่องจากเห็นว่าการควบรวมจะทำให้ผู้ให้บริการจากสามรายเหลือสองราย ทำให้การแข่งขันน้อยลง ซึ่งการเข้าถึงดาต้า คือ การเข้าถึงโอกาส ถ้าการเข้าถึงได้ยากขึ้นย่อมทำให้โอกาสของประชาชนลดลง ถ้าต้องการควรรวมก็ควรมีมาตรการป้องกันไม่ให้มีการผูกขาดตลาด เช่น การทำให้มีผู้บริการรายใหม่เกิดขึ้นโดยเร็ว หรือการคืนคลื่นความถี่เพื่อนำมาประมูลใหม่อย่างเป็นธรรม
“พรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้า ไม่อยากเห็นการผูกขาด การแข่งขันในธุรกิจโทรคมนาคมควรนำไปสู่การพัฒนา และไม่มีการผูกขาด ขณะนี้มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันว่าการควบรวมกิจการทำให้ราคาค่าบริการแพงขึ้น ทุกวันนี้คนไทยใช้ดาต้าสูงมาก การควบรวมจะส่งผลกระทบจะทำให้ค่าใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มขึ้น
การควบรวมกิจการเกิดขึ้นเมื่อ เทเลนอร์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของดีแทคต้องการการเปลี่ยนแปลงการลงทุน เรื่องนี้ถ้า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นว่าธุรกิจโทรคมนาคมมีความสำคัญในการพัฒนาประเทศ ควรช่วยหาคนมาซื้อหุ้นดีแทคแทนเทเลนอร์ เชื่อว่ามีกลุ่มทุนจากต่างประเทศมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุน”นายธนาธร กล่าวกับผู้สื่อข่าว
วานนี้ นายธนาธร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า จะเดินทางมาที่ กสทช.เนื่องจากเห็นว่าการตัดสินใจของ กสทช.ในวันนี้อาจไม่เป็นไปในทางที่ปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภค เพราะไม่กี่วันก่อนหน้านี้ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรผู้บริโภค ผู้ที่ขับเคลื่อนรณรงค์ต่อต้านการควบรวม TRUE-DTAC มาอย่างต่อเนื่องแข็งขันถูกฟ้อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และถูกข่มขู่ว่าจะฟ้องคดีอาญา เพียงเพราะได้เผยแพร่รายงานผลการศึกษาเรื่องการควบรวม TRUE-DTAC ของบริษัทที่ปรึกษาต่างประเทศ โดยผู้ฟ้องอ้างว่ารายงานดังกล่าวเป็นความลับของทางราชการ
“การที่คุณสารีถูกข่มขู่ด้วยคดีความ นับว่าเป็นการใช้กฎหมายเพื่อฟ้องเพื่อปิดปากภาคประชาชน เพราะข้อมูลที่เผยแพร่ไม่ได้เป็นความลับ และยังเป็นข้อมูลที่ กสทช.ต้องเผยแพร่ตามกฎหมายอยู่แล้วตาม พ.ร.บ.กสทช. มาตรา 59 ผมขอให้กำลังใจและยืนหยัดร่วมกับคุณสารี เธอได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เพราะรายงานนี้ยืนยันว่าการควบรวมจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ทำให้เสียค่าบริการแพงขึ้น และทำให้เอกชนผู้ให้บริการขาดแรงจูงใจในการแข่งขันกันพัฒนาคุณภาพ” นายธนาธร ระบุ
นอกจากนี้ กสทช. ยังจำเป็นต้องตอบข้อข้องใจต่อสังคมในหลายประเด็น เช่น ผลประโยชน์ทับซ้อนของบริษัทที่ปรึกษาอิสระ ซึ่งบริษัทถือหุ้นโดยตระกูลเจียรวนนท์ หมายความว่าที่ปรึกษาไม่ได้มีความ “อิสระ” อย่างแท้จริง หรือกรณีที่รายงานจากบริษัทที่ปรึกษาต่างชาติ ซึ่งได้ข่าวว่ามีการจ้างทำในราคาสูงถึง 10 ล้านบาท หรือกรณีที่ตัวรายงานฉบับสุดท้ายจะออกมาในวันที่ 14 พ.ย. ทั้งที่การตัดสินใจของ กสทช.จะเกิดขึ้นในวันนี้แล้ว เป็นต้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 65)
Tags: DTAC, TRUE, กสทช., ทรู คอร์ปอเรชั่น, ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, สภาองค์กรของผู้บริโภค, สภาองค์กรผู้บริโภค