บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดเผยว่า บมจ.เอสซีจี เคมิคอลส์ (SCGC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCC ถือหุ้นทั้งหมด ได้เข้าร่วมลงทุนตามสัญญาร่วมทุนกับบริษัท Denka Company Limited (Denka) ประเทศญี่ปุ่น เพื่อจัดตั้งบริษัทสำหรับธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอะเซทิลีนแบล็ก (Acetylene black) (บริษัทร่วมทุน) โดย Denka จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทร่วมทุนในสัดส่วน 60% และส่วนที่เหลือจำนวน 40% จะถือหุ้นโดย SCEC
โครงการนี้จัดตั้งขึ้นในจังหวัดระยอง ประเทศไทย มีกำลังการผลิตประมาณ 11,000 ตันต่อปี และคาดว่าจะสามารถเริ่มกระบวนการผลิตได้ภายในต้นปี 68 ทั้งนี้ รายละเอียดการลงทุนจะเป็นไปตามการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในต้นปี 66
Denka เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตอะเซทิลีนแบล็ค ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นหลัก รวมถึงสามารถนำไปใช้เป็นวัสดุสำหรับผลิตสายส่งไฟฟ้าแรงสูง โดยวัตถุดิบที่ได้จาก SCGC (Ethylene, Acetylene และ Ethane) นั้น จะจัดหาโดยโรงงาน Olefins ของ SCGC ในการผลิตอะเซทิลีนแบล็คของ Denka (DENKA BLACK) ซึ่งเป็นคาร์บอนเบล็คชนิดพิเศษมีคุณสมบัติที่มีความบริสุทธิ์สูงและนำไฟฟ้าได้ดีเยี่ยม
การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนนี้จะส่งเสริมให้ SCGC สามารถก้าวเข้าสูธุรกิจผลิตแบดเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มความต้องการของตลาดเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ SCGC ในการยกระดับธุรกิจสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (High Value-Added หรือ HVA) และเสริมสร้างการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพื่อรองรับเมกะเทรนต์ การร่วมทุนกับ Denka จะช่วยเน้นย้ำจุดยืนของ SCGC ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์ด้วยความสำเร็จมาแล้วหลายทศวรรษกับพันธมิตรระดับโลก
Denka เป็นบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี โดยมีแผนธุรกิจในระยะกลางที่มุ่งเน้นความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม พลังงาน และสินค้าที่มีมูลค่เพิ่มสูง โดยเฉพาะในโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน นอกจากนี้ Denka ยังให้ความสำคัญกับการบริหารงานด้าน ESG เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
ทั้งนี้ ในปี 64 Denka มีรายได้สุทธิประมาณ 113,000 ล้านบาท กำไรสุทธิประมาณ 7,700 ล้านบาท และสินทรัพย์รวมประมาณ 164,000 ล้านบาท
SCGC เป็นบริษัทผู้นำด้านธุรกิจเคมิคอลส์ในภูมิภาคอาเซียน ประกอบธุรกิจในประเทศไทยอินโดนีเซียและเวียดนาม โดยมี 4 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1.ผู้นำด้านเคมีภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน 2. มุ่งขยายและสร้างความแข็งแกร่งเพื่อเป็นผู้ประกอบธุรกิจไวนิล (Viny) ครบวงจร 3. เป็นผู้นำการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับโลกโดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green polymer) และ 4.พัฒนาและเร่งการเติบโตของสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA) ทั้งนี้ การลงทุนของ SCGC มีการพิจารณาผลตอบแทนของทุกโครงการตลอดช่วงระยะวัฎจักรของปิโตรเคมี (over the cycle)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 65)
Tags: SCC, SCGC, ปูนซิเมนต์ไทย, ยานยนต์ไฟฟ้า, หุ้นไทย, เอสซีจี เคมิคอลส์