เงินบาทเปิด 38.42 แนวโน้มอ่อนค่า หลังดอลลาร์แข็งค่า รับบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 38.42 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 38.24 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าจากเย็นวาน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ดีดขึ้นแรง ทำให้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน ประกอบกับเงินเฟ้อของอังกฤษ และแคนาดา ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาด จึงทำให้ตลาดมอง แนวโน้มว่าธนาคารกลางหลายประเทศ คงยังต้องใช้นโยบายปรับดอกเบี้ยแรงขึ้นต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ตลาดยังจับตา Flow ของต่างชาติ ซึ่งระยะหลังนี้ เริ่มมีการขายพันธบัตรรัฐบาลของไทยต่อเนื่อง รวมทั้งจับตา ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ว่าจะเข้ามาแทรกแซงค่าเงินเยนหรือไม่ หลังจากที่เงินเยนอ่อนค่าใกล้แตะ 150 เยน/ดอลลาร์ นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 38.25 – 38.50 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (19 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.54473% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.63136%

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 149.90 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 149.45 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 0.9760 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 0.9810 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 38.107 บาท/ดอลลาร์

– “คลัง” เตรียมถก “สคช.-ธปท.” มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี 65 ต่อต้นปี 66 เพื่อรักษาระดับการใช้จ่ายใน ประเทศเชื่อเศรษฐกิจปีหน้าไม่มีปัญหา “ส่งออก-ยอดนักท่องเที่ยว”

– รมว.คลัง เปิดเผยถึงผลการเข้าร่วมประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอ ฟ) ที่สหรัฐ ว่า ได้หารือกันในหลายประเด็น โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งไอเอ็มเอฟ ได้ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลดลง เช่น เดียวกับเศรษฐกิจไทยที่ปรับคาดการณ์ปีนี้ลดเหลือ 2.8% ปีหน้าอยู่ที่ 3.7% แต่คลังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่เผชิญภาวะถดถอยและปีหน้า ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง

– ททท. เตรียมเสนอครม.พิจารณา ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ระยะที่ 5 พ.ย.65-เม.ย.66 จำนวน 3-4 ล้านสิทธิ์ รัฐอุดหนุน ค่าใช้จ่าย 40% นักท่องเที่ยวจ่ายเอง 60% พร้อมบัตรกำนัล 600 บาทต่อคืน ด้านกระทรวงอุตฯ นำร่องจัดงานสินค้าราคาถูกเป็นของขวัญปี ใหม่

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (19 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้า ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมทั้งในเดือนพ.ย.และธ.ค.

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ เนื่องจากแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทน พันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 21.6 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,634.2 ดอลลาร์/ออนซ์

– ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไป เพื่อปกป้อง เศรษฐกิจจากความเสี่ยงภายนอก โดยยืนยันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้เยนทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 32 ปี ทั้งนี้ เยนยังคงอ่อนค่าเทียบดอลลาร์ในการซื้อขายเมื่อคืนที่ผ่านมา ล่าสุดร่วงลงทะลุ 149 เยน แตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ใน รอบ 32 ปี ใกล้แนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่ระดับ 150 เยน

– กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ รายงานว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 8.1% ในเดือนก.ย. สู่ระดับ 1.439 ล้านยูนิต และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.475 ล้านยูนิต จากระดับ 1.566 ล้านยูนิตในเดือนส.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้น ของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง และราคาวัสดุก่อสร้าง

– ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนต.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด (Conference Board)

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 65)

Tags: ,
Back to Top