วัชระ ร้อง ป.ป.ช.สอบ “สันติ พร้อมพัฒน์-ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้สอบสวนเจ้าหน้าที่ของรัฐมีการกระทำที่ส่อทุจริตหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมาย ป.ป.ช.หรือไม่

นายวัชระ กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ต.ค.65 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า “เมื่อวันที่ตนลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์มีเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบมาร้องเรียนว่าไม่ได้รับการเยียวยางบประมาณ 50 ล้านบาท ทั้งที่ตรวจสอบไปยังสำนักงบประมาณแล้วพบว่ามีการอนุมัติไปแล้วและเงินตรงนี้ไม่ไปถึงชาวบ้าน” และขอให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตรวจสอบว่าเงินหายไปไหน

กรณีนี้มีประเด็นต่างๆ ที่ต้องตรวจสอบ ดังนี้

1.การเบิกจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบในจังหวัดเพชรบูรณ์จำนวน 50 ล้านบาท ภายใต้การกำกับดูแลของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เหตุใดเกษตรกรฯ จึงยังไม่ได้รับเงินและต้องร้องเรียนกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง

นายวัชระ กล่าวว่า กรณีเงินเยียวยาเกษตรกรผุ้ปลูกยาสูบในจังหวัดเพชรบูรณ์ หากเงินไม่ตกถึงมือเกษตรกร ความล่าช้านับเป็นบาปของแผ่นดิน จึงขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบเรื่องนี้ และดำเนินการตามกฎหมาย ป.ป.ช.กับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหน่วยให้ถึงที่สุด โดยให้กันข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนไว้เป็นพยาน

อีกทั้ง ยังได้ร้องให้ตรวจสอบเรื่องวุฒิการศึกษา ระดับปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่านายสันติเข้าศึกษาจริงหรือไม่ มีการทุจริตให้บุคคลอื่นเข้าสอบกระบวนวิชา PY103 (ปรัชญาเบื้องต้น) แทนจริงหรือไม่ อีกทั้งขอให้ตรวจสอบ DNA และสัญชาติไทย ของนายสันติ เนื่องจากพูดภาษาไทยไม่ชัดเจน

และเมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เบิกจ่ายเงินงบข้าวกล่องเมื่อปี 2554 แจกผู้ประสบภัยน้ำท่วมมีรายละเอียดอย่างไร แจกงบให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคร่วมรัฐบาลเป็นใครบ้าง ใช้งบประมาณเท่าใด แจกให้ชาวบ้านโดยตรงหรือไม่

นอกจากนี้ ยังได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้สอบสวนเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ในฐานะเลขานุการกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ซึ่งเป็นผู้ถือกฎการบินและกำกับดูแลด้านกิจการบินพลเรือนได้ร่วมกันปกปิดซ่อนเร้นข้อเท็จจริง ปล่อยให้มีการกระทำความผิดโดยไม่มีการดำเนินการทางกฎหมาย เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ

จากกรณีเหตุการณ์เครื่องบินเล็กส่วนบุคคล CURRUS SR 22T เครื่องหมายสัญชาติ HS-SYD ชนคนออกกำลังกายเสียชีวิตขณะร่อนลงจอดที่สนามบินเครือสหพัฒน์ จังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 28 ต.ค.64 ซึ่งขณะนี้เวลาผ่านล่วงเลยมาเกือบ 1 ปีแล้ว ปรากฏว่าการดำเนินคดีของ สภ.เหมืองจี้ จังหวัดลำพูน ไม่มีความคืบหน้าว่าใครเป็นผู้ครอบครองเครื่องบินเล็กส่วนบุคคลลำดังกล่าว เนื่องด้วยอิทธิพลทางการเมือง

ดังนั้นจึงขอให้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้เกิดความเป็นธรรมและคุ้มครองความปลอดภัยกับประชาชนทั่วไป ซึ่งอาจถูกเครื่องบินที่ขับโดยนักบินที่ไม่มีใบอนุญาตพุ่งชนประชาชนหรือสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญของชาติได้ และให้ดำเนินการตามกฎหมาย ป.ป.ช. กับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหน่วยให้ถึงที่สุด โดยให้กันข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนไว้เป็นพยาน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ต.ค. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top