สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เปิดเผยในวันนี้ (11 ต.ค.) ว่า การสัญจรของสายการบินโดยสารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีแนวโน้มฟื้นตัวแตะ 73% ของระดับปี 2562 ภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากมีการผ่อนปรนการบังคับใช้มาตรการสกัดโควิด-19 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 53% ในเดือนส.ค.
“ผมคิดว่าแนวโน้มนั้นแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขณะนี้ตลาดสำคัญทั้งหมดในเอเชียแปซิฟิกกลับมาเปิดเมืองแล้ว ยกเว้นเพียงแต่จีนเท่านั้น” นายฟิลิป โกห์ รองประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ IATA กล่าวต่อสื่อมวลชนผ่านการสัมมนาทางเว็บ
การบินของเอเชียนั้นฟื้นตัวช้ากว่าพื้นที่อื่นของโลกเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากจีนยังคงปิดพรมแดน ทำให้ตัวเลขผู้โดยสารระหว่างประเทศของจีนเฉลี่ยแล้วอยู่ที่เพียง 2% – 3% ของระดับก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด
นายโกห์เสริมว่า ตัวเลขคาดการณ์การสัญจรทางอากาศในช่วงปลายปีดังกล่าว อิงมาจากการที่จีนเตรียมเปิดพรมแดนในอีกไม่ช้า แม้ยังไม่มีการกำหนดวันเปิดพรมแดนที่ชัดเจน
อีกปัจจัยหนุนอุตสาหกรรมการบินคือการที่ญี่ปุ่นกลับมาอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าอีกครั้งในวันนี้ (11 ต.ค.) ขณะที่ ไต้หวันจะยุติการบังคับใช้มาตรการกักตัวสำหรับนักเดินทางขาเข้าในวันพฤหัสบดีที่ 13 ต.ค. ส่วนฮ่องกงยกเลิกมาตรการกักตัวไปเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ IATA ระบุว่า ปริมาณการสัญจรของสายการบินโดยสารระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแตะ 35% ของระดับปี 2562 ในเดือนส.ค. โดยคาดว่ากว่าที่อัตราดังกล่าวจะกลับมาแตะระดับของช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ระบาดนั้นต้องรอไปถึงปี 2568
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ต.ค. 65)
Tags: IATA, สายการบิน, เอเชียแปซิฟิก