ซีอีโอเจพีมอร์แกนแนะสหรัฐผลิตน้ำมันเพิ่ม เตือนโลกเสี่ยงเผชิญวิกฤตพลังงาน

นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชสให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีในวันจันทร์ (10 ต.ค.) ว่า สหรัฐควรผลิตน้ำมันและก๊าซเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยบรรเทาวิกฤตการณ์พลังงานทั่วโลก โดยระบุว่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวไม่ต่างจากความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติที่เกิดจากวิกฤตพลังงานในช่วงสงคราม

นายไดมอนกล่าวว่า วิกฤตการณ์พลังงานจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับในอดีตที่ยุโรปต้องเผชิญเนื่องจากพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียมากเกินไป พร้อมกับเรียกร้องให้บรรดาประเทศตะวันตกช่วยสนับสนุนสหรัฐในการมีบทบาทเป็นผู้นำความมั่นคงด้านพลังงานโลก

“ในมุมมองของผมนั้น สหรัฐควรผลิตน้ำมันและก๊าซเพิ่มขึ้น และภารกิจนี้ควรได้รับการสนับสนุน สหรัฐจำเป็นต้องมีบทบาทเป็นผู้นำที่แท้จริง โดยสหรัฐจะทำการปรับเพิ่มหรือลดอุปทานตามยุทธศาสตร์เพื่อให้ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก (Swing Producer) ไม่ใช่ซาอุดีอาระเบีย และเราควรจะเริ่มภารกิจนี้ในเดือนมี.ค.ปีหน้า” นายไดมอนกล่าว

ทั้งนี้ ยุโรป ซึ่งเป็นผู้นำเข้าพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย โดยต้องพึ่งพาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียในอัตราส่วนสูงถึง 45% นั้น เป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตพลังงานรุนแรงที่สุด โดยเผชิญทั้งราคาที่สูงขึ้นและภาวะอุปทานที่ลดลง อันเนื่องมาจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียหลังจากที่ส่งกำลังทหารรุกรานยูเครน

นายไดมอนกล่าวว่า ในขณะที่ชาติยุโรปได้บรรลุเป้าหมายการเพิ่มอุปทานก๊าซในฤดูหนาวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผู้นำประเทศควรจะพิจารณาถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับมั่นคงด้านพลังงานในอนาคตด้วย

“ขณะนี้เรากำลังเผชิญปัญหาระยะยาว ซึ่งเกิดจากการที่ทั่วโลกไม่ได้ผลิตน้ำมันและก๊าซให้เพียงพอที่จะลดการใช้ถ่านหินได้ ทำให้โลกสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสร้างความมั่นคงให้กับประชาชน” นายไดมอนกล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ต.ค. 65)

Tags: ,
Back to Top