นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง ส.ส.ว่า ขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่าได้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง โดยเฉพาะช่วง 180 วันก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะครบวาระ และสภาอาจครบวาระหรืออาจมีการยุบสภาก่อนหน้านั้นก็ตาม ในส่วนของพรรคฯ จึงได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องการเลือกตั้งทั่วประเทศ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค จึงได้แต่งตั้ง นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบายกรุงเทพมหานคร และนางวทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพมหานคร
“ทั้ง 2 ท่านเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญในการทำงานหลายด้าน เป็นที่ประจักษ์ของสังคมโดยทั่วไป พรรคประชาธิปัตย์จึงมั่นใจว่าการทำงานของทั้ง 2 ท่าน จะมีส่วนอย่างสำคัญในการผลักดันให้สมาชิกของพรรคทั้งหมดหลอมรวม ช่วยกันทำงานเพื่อเป้าหมายในการทำให้พี่น้องประชาชนมอบความไว้วางใจให้กับพรรคประชาธิปัตย์ และมอบความไว้วางใจให้กับผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคต่อไป” นายองอาจ กล่าว
สำหรับในกรุงเทพมหานครนั้น คณะกรรมการยุทธศาสตร์กรุงเทพมหานคร ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งมาระยะเวลาหนึ่ง จึงได้มีการเตรียมคณะเตรียมการเลือกตั้งขึ้น เพื่อดำเนินการในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ที่จะมีอยู่ 3 ส่วน ประกอบด้วย
1. ยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง ในส่วนกรุงเทพมหานคร ของพรรค ซึ่งจะได้มีการเตรียมการในเรื่องยุทธศาสตร์ที่จะใช้ในการเลือกตั้งโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีความแตกต่างจากภาคต่างๆ ของประเทศ ซึ่งในส่วนกรุงเทพมหานคร นั้น การเลือกตั้งทุกครั้ง โดยเฉพาะการเลือกตั้ง ส.ส. ถือว่าเป็นพื้นที่ที่ประชาชนทั่วประเทศให้ความสนใจ โดยเฉพาะตัวผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งในทุกเขตของกรุงเทพมหานคร เมื่อในการเลือกตั้งปี 2562 มีเขตเลือกตั้ง 30 เขต แต่สำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้น จะมีเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้นเป็น 33 เขต ดังนั้นการกำหนดยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง จึงเป็นหัวใจสำคัญอันดับแรกของการเตรียมการเลือกตั้ง
2. นโยบายที่ใช้หาเสียง เพราะนโยบายสาธารณะต่างๆ ที่พรรคนำเสนอต่อประชาชนนั้น ก็เพื่อให้ทราบว่าพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เข้าไปทำหน้าที่แทนทั้งในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร หรือในฐานะฝ่ายบริหาร จะมีนโยบายใดที่จะนำไปขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน
ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ได้มีการเตรียมการเรื่องนโยบายที่จะนำเสนอต่อประชาชน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นนโยบายที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในกรุงเทพมหานคร สอดคล้องกับนโยบายระดับชาติ นโยบายระดับประเทศ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ กำลังดำเนินการที่จะนำเสนอต่อพี่น้องประชาชนต่อไป
3. ตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งในส่วนกรุงเทพมหานคร ระยะเวลาที่ผ่านมา พรรคได้มีการเตรียมการในเรื่องผู้สมัครรับเลือกตั้งไปแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ ทั้งเรื่องความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ในการทำงาน และที่สำคัญคือเป็นผู้ที่มีอุดมการณ์สอดคล้องตรงกับพรรคประชาธิปัตย์ มีแนวทางการทำงานที่สามารถทำงานร่วมกับพรรค เพื่อนำไปสู่เป้าหมายเพื่อพี่น้องประชาชนได้
ในส่วนผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร นั้น จะประกอบด้วยผู้สมัครทั้งที่เป็นอดีต ส.ส. กรุงเทพมหานคร จำนวนหนึ่ง นอกจากนั้นก็ยังมีหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจ มีความพร้อมที่อยากเสนอตัวเข้ามารับใช้ประชาชน
ด้านนายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ปัญหา กทม. นั้นเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง จำเป็นต้องผลักดันในระดับประเทศ ซึ่งหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาพใหญ่ระดับประเทศแล้ว ก็จะทำให้ยากที่จะประสบความสำเร็จ ซึ่งสาเหตุที่ประชาชนต้องเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากพรรคมีความตั้งใจจริงที่จะสร้างนโยบายที่ตอบโจทย์ปัญหาอย่างแท้จริง ซึ่งจะไม่ใช่นโยบายที่ทำไม่ได้ แต่จะต้องเป็นนโยบายที่ทำได้จริง มีความทันสมัย รองรับการแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ต้องกลับมาแก้ซ้ำแก้ซาก โดยจากนี้จะได้มีการลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาในเชิงลึก พร้อมกับผู้เชี่ยวชาญ และทีมงานในพื้นที่เพื่อที่จะนำมาสกัดเป็นนโยบายที่ทำได้จริง มีความทันสมัย สามารถแก้ปัญหาให้กรุงเทพมหานครได้
นางวทันยา กล่าวว่า จากวันแรกที่ตนก้าวเข้าสู่พรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นจุดเชื่อมโยงคน 2 รุ่น หรือเชื่อมโยงปัญหาที่เกิดจากช่องว่างระหว่างคน 2 รุ่น และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืนและเข้มแข็งต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 65)
Tags: การเมือง, พรรคประชาธิปัตย์, วทันยา บุนนาค, สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์, องอาจ คล้ามไพบูลย์