นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ปรับตัวลงตามภูมิภาคหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีกว่าคาด หนุนเฟดเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย และสัปดาห์นี้จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ รวมถึงตลาดหุ้นไทยจะเปิดทำการเพียง 3 วัน อาจทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนได้ ให้แนวรับ 1,572 จุด หากหลุดให้แนวรับถัดไปที่ 1,555-1,560 จุด และมีแนวต้านที่ 1,585 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเมื่อคืนวันศุกร์ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า ประกอบกับในวันที่ 13 ต.ค. จะมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ของสหรัฐ รวมถึงสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นไทยจะเปิดทำการ 3 วัน อาจทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนได้
อย่างไรก็ตาม มองตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับตัวลงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากได้อานิสงส์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นมา 4% ซึ่งน่าจะส่งผลดีกับหุ้นกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวขึ้นช่วยพยุงตลาดเอาไว้
ให้แนวรับ 1,572 จุด หากหลุดให้แนวรับถัดไปที่ 1,555-1,560 จุด และมีแนวต้านที่ 1,585 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (7 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,296.79 จุด ร่วงลง 630.15 จุด หรือ -2.11%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,639.66 จุด ร่วงลง 104.86 จุด หรือ -2.80% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,652.40 จุด ร่วงลง 420.91 จุด หรือ -3.80%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 17,449.36 จุด ร่วงลง 290.69 จุด หรือ 1.63% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,026.94 จุด เพิ่มขึ้น 2.55 จุด หรือ +0.084% ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ (10 ต.ค.) เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ (Sports Day)
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ต.ค.65.) ที่ระดับ 1,579.66 จุด ลดลง 9.52 จุด, -0.60%
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,213.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ต.ค.65
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.(7 ต.ค.) พุ่งขึ้น 4.19 ดอลลาร์ หรือ 4.7% ปิดที่ 92.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. 2565 และในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 16.5%
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 ต.ค.) อยู่ที่ 3.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
– เงินนบาทเปิด 37.65 แนวโน้มอ่อนค่า หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหนุนดอลลาร์แข็งค่า
– เอกชนส่องเศรษฐกิจโลกโอกาสถดถอยสูง เหตุพลังงานพุ่ง หนุนเงินเฟ้อ กดดันขึ้นดอกเบี้ยทั่วโลก “อาทิตย์” ชี้ไทยกำลังฟื้นตัว แต่เปราะบาง มั่นใจ ภาคธุรกิจ-แบงก์พาณิชย์ยังแกร่ง “จิรายุส” แนะสูตรเอาตัวรอด ลดค่าใช้จ่าย ถือเงินสด หยุดลงทุนธุรกิจขาดทุน สอท.จี้ส่งออกหาตลาดใหม่ทดแทน ขณะที่หอการค้า ลุ้นจีนเปิดประเทศปลุกท่องเที่ยว
– สรท.เผยส่งออกไทย เริ่มแผ่วไตรมาส 4 ต่อเนื่องถึงปีหน้า ประเมินปี 66 เศรษฐกิจโลกชะลอตัว จากปัญหารุมเร้าเพียบ ทั้งสหรัฐขึ้นดอกเบี้ย สกัดเงินเฟ้อ ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์พลังงานแพงแนะเร่งหาตลาดส่งออกใหม่ ดูแลค่าพลังงาน รักษาเงินบาทให้มีเสถียรภาพ ด้านนักเศรษฐศาสตร์คาดส่งออกปีหน้าเสี่ยงติดลบเหตุเศรษฐกิจโลกชะลอ
– “นิด้าโพล” เปิดผลสำรวจพบ “อุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทย” นำลิ่วในภาคอีสาน “บิ๊กตู่” อันดับ 4 พท.เปิดนโยบาย วางบันได 4 ขั้นแลนด์สไลด์ ลั่นหมดเวลา “ประยุทธ์” ด้าน “บิ๊กป้อม” ไม่ปริปากข่าว “ธรรมนัส” ยกก๊วนซบ พท.
– กกร.ระดมสมอง CEO ฟื้นความสามารถการแข่งขันประเทศ หวังดัน GDP ไทยปี’66 โตทะลุ 4% เล็งใช้เวที APEC ดึงนักลงทุนเข้า EEC จี้รัฐโละกฎหมายล้าสมัย ชี้ “ท่องเที่ยว” เป็นพระเอกสร้างรายได้ปั๊มยอด 20 ล้านคน ด้าน “JFCCT” แนะตั้งรับพิษ ศก.โลก-เงินเฟ้อพุ่ง แจกสิทธิประโยชน์ลงทุนต่างชาติ
หุ้นเด่นวันนี้
– NER (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 6.00 บาท “คาดราคาหุ้น Bottom out Sale Volume ไตรมาส 3/65 เพิ่ม” แนวโน้มรายได้ไตรมาส 3/65 ได้แรงหนุนจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น เบื้องต้นประเมินใกล้เคียงกับไตรมาส 3/64 ที่ 1.39 แสนตัน หรือ 30% ของเป้าทั้งปี 65 มาร์จิ้นจากการขาย ในปี66 โดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นจากสินค้าปลายน้ำ อาทิ แผ่นรองนอนวัวซึ่งเป็นสินค้ากลุ่มแรกที่ใช้เปิดตลาด สำหรับปี 66 คาดเป็น 3.4% ของรายได้รวม ติดตามการเปิดสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติมในปีหน้า DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 เฉลี่ยที่ 1.94 พัน ลบ. และ 2.2 พัน ลบ. +1.4%YoY, +14%YoY ตามลำดับ
– TU (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 24.50 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ทำจุดสูงสุดรอบ 5 ไตรมาส +32% Q-Q, +11% Y-Y จาก High Season บาทอ่อน โดยเติบโตทุกธุรกิจทั้ง Ambient Frozen และ Pet Food & Value Added รวมถึงมีการปรับเพิ่มราคาขายขึ้นโดยเฉพาะในยุโรปเพื่อชดเชยต้นทุนพลังงานที่สูง Red Lobster ยังขาดทุนแต่คาดไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเหมือนไตรมาสก่อน แนวโน้มไตรมาส 4/65 จะอ่อนตัวลงตามฤดูกาล แต่ประเมินกำไรทั้งปีมีโอกาสสูงกว่าประมาณการปัจจุบันของเราถึง 15% เป็น Upside ขณะที่ปี 2023 คาดยังมีทิศทางแข็งแรง ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด 2023PER ต่ำเพียง 12 เท่า
– PTTEP (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 185 บาท ได้ Sentiment บวกน้ำมันดิบพุ่งทะลุระดับ 90 เหรียญ/บาร์เรล คาดหวัง OPEC+ ลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำให้ Supply น้ำมันดิบโลกตึงตัว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 65)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย