กูรูยกตลาดหุ้นสิงคโปร์ทำผลงานดีสุดในบรรดาตลาดประเทศพัฒนาแล้วในปีนี้

นายอลัน ริชาร์ดสัน ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนของบริษัทซัมซุง แอสเซต แมเนจเมนท์ (ฮ่องกง) กล่าวว่า ในขณะที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวแต่เงินเฟ้อสูง (Stagflation) กำลังส่งผลกระทบต่อแนวโน้มตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วขนาดใหญ่ แต่ตลาดหุ้นสิงคโปร์กลับเป็นตลาดหุ้นของประเทศพัฒนาแล้วเพียงแห่งเดียวที่ทำผลงานได้โดดเด่นอย่างน่าประหลาดใจในปีนี้

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี Straits Times Index ตลาดหุ้นสิงคโปร์ดีดตัวขึ้นประมาณ 1% ในปี 2565 ซึ่งเป็นดัชนีของตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วเพียงแห่งเดียวที่ยังคงเคลื่อนไหวในแดนบวกเมื่อพิจารณาในรูปสกุลเงินดอลลาร์ แต่ในทางกลับกัน ดัชนีตลาดหุ้นโลกร่วงลง 22% ในปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลกในปี 2551

ภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น รวมทั้งมูลค่าหุ้นที่มีแนวโน้มถูกลง และเศรษฐกิจที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการที่สิงคโปร์ฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 นั้น ได้ช่วยให้ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งมีน้ำหนักราวครึ่งหนึ่งของตลาด

ทั้งนี้ นายริชาร์ดสันกล่าวว่า “ตลาดหุ้นสิงคโปร์ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น โดยหุ้นคุณค่า (Value Stock) ปรับตัวได้ดีกว่าหุ้นเติบโต (Growth Stock) และคาดว่าภาวะดังกล่าวจะดำเนินต่อไปตราบใดที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงมุ่งมั่นที่จะฉุดอัตราเงินเฟ้อลงสู่ระดับเป้าหมายในระยะยาว

นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นสิงคโปร์ไม่ค่อยมีบริษัทเทคโนโลยีเข้าจดทะเบียนก็เป็นอีกปัจจัยบวก ซึ่งตรงข้ามกับตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปที่ระบบเศรษฐกิจเผชิญปัญหาเป็นวงกว้างตั้งแต่ปัญหาเงินเฟ้อไปจนถึงการขาดแคลนพลังงานและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน

นายดาเนียล ดูบรอฟสกี นักกลยุทธ์ด้านการลงทุนจากบริษัทเดลีเอฟเอ็กซ์กล่าวว่า “ตราบใดที่เฟดยังไม่ชะลอหรือกลับลำการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจะไม่สามารถไล่ตามตลาดหุ้นสิงคโปร์ได้ทัน โดยในขณะนี้ตลาดกำลังจับตาท่าทีของเฟด แม้ว่าธนาคารกลางออสเตรเลียเพิ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าคาดในสัปดาห์นี้ก็ตาม”

ทั้งนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 2.60% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าอาจจะผลักดันให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ต.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top