ผลสำรวจทัศนะภาคครัวเรือน (Household Pulse) ของสำนักสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐครั้งล่าสุดบ่งชี้ว่า ภาวะเงินเฟ้อสูงในขณะนี้ทำให้ประชาชนเผชิญความยากลำบากมากขึ้นในการหาเงินมาชำระค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ทั้งยังกระทบแผนการเกษียณ รวมถึงทำให้ประชาชนต้องจำกัดการเดินทางและระมัดระวังการใช้จ่าย โดยปัญหาเงินเฟ้อสูงทำให้ประชาชนมีความตื่นตระหนกเป็นวงกว้างและรุนแรง
ผลสำรวจระบุว่า ประมาณ 65% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐพบว่า ราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นสร้างความเครียด “อย่างมาก” หรือ “ปานกลาง” โดยผลสำรวจฉบับนี้เริ่มสอบถามเรื่องราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นครั้งแรก
ความเครียดจากปัญหาราคาสินค้าแพงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้ใหญ่ที่มีเชื้อสายฮิสแปนิกและผิวดำมากกว่ากลุ่มอื่นเล็กน้อย ขณะที่ ชาวอเมริกันผู้ใหญ่ที่จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยมีความเครียดน้อยกว่ากลุ่มอื่น โดยอยู่ที่ประมาณ 54% ส่วนผู้มีรายได้ต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์ต่อปีกว่า 80% รู้สึกเครียดเพราะภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบัน เทียบกับระดับ 38% ในกลุ่มผู้ที่มีรายได้กว่า 200,000 ดอลลาร์ต่อปี
ผลสำรวจฉบับนี้แสดงให้เห็นว่า เงินเฟ้อสูงส่งผลกระทบต่อรูปแบบการใช้จ่ายและจิตวิทยาของประชาชน หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) โดยรวมเพิ่มขึ้นกว่า 8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี
สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยข้อมูลผลสำรวจฉบับดังกล่าวว่า ประมาณ 35% ของผู้ใหญ่อเมริกันตัดสินใจยกเลิกการเดินทางท่องเที่ยวในสัปดาห์ก่อนหน้า เพราะราคาน้ำมันแพง ในขณะที่ ประมาณ 20% ต้องลดหรือยกเลิกการใช้จ่ายไปกับสินค้าจำเป็นขั้นพื้นฐานสำหรับครัวเรือน เช่น ยา หรืออาหาร” เพื่อนำไปจ่ายค่าพลังงาน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ต.ค. 65)
Tags: ชาวมะกัน, ผลสำรวจ, ราคาน้ำมัน, ราคาสินค้า, สหรัฐ, เงินเฟ้อ