นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนในโครงการ ฯ ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2565 เป็นต้นมา พบว่ามีประชาชนที่ประสงค์จะลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ฯ แต่มีปัญหาในการลงทะเบียน โดยเฉพาะในกรณีที่มีคู่สมรสแต่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสลงนามในแบบฟอร์มการลงทะเบียนตามโครงการ ฯ ซึ่งมีประชาชนอยู่ในข่ายนี้ประมาณ 1 แสนราย
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงมีมติเห็นชอบแนวปฎิบัติสำหรับผู้ลงทะเบียนที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้ ดังนี้
1.กลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้ลงทะเบียนที่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป (นับถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2565) ผู้พิการหรือผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้ ยังสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ฯ ปี 2565 โดยรับรองตนเองว่า ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้ พร้อมลายมือชื่อพยานรับรองด้วยจำนวน 2 คน และต้องมีการลงนามรับรองจากเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยในพื้นที่ (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอหรือ ผู้ที่นายอำเภอมอบหมาย พนักงานเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองและเทศบาลนครในพื้นที่ เจ้าหน้าที่สำนักเขตที่ผู้อำนวยการเขตมอบหมาย เจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนท้องถิ่นเมืองพัทยา) ไปยื่นที่หน่วยงานรับลงทะเบียน ซึ่งกระทรวงการคลังจะตรวจสอบคุณสมบัติกลุ่มดังกล่าวตามสถานะ
2.กลุ่มทั่วไป ได้แก่ ผู้ลงทะเบียนที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี ยื่นแบบฟอร์มการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ฯ 2565 กรณีไม่สามารถติดตามคู่สมรสมาเพื่อดำเนินการได้ ให้ผู้ลงทะเบียนรับรองในเอกสารที่กระทรวงการคลังกำหนดว่าไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้พร้อมลายมือชื่อพยานจำนวน 2 คน นำไปยื่นต่อหน่วยงานรับลงทะเบียน กระทรวงการคลังจะตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนกลุ่มดังกล่าวในสถานะไม่มีคู่สมรส
3.เมื่อผู้ลงทะเบียนผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ผู้ลงทะเบียนจะสามารถใช้สิทธิตามโครงการ ฯ ปี 2565 ได้เมื่อยืนยันตัวตน ณ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน ตั้งแต่วันที่ประกาศผลผู้ผ่านการตรวจคุณสมบัติ (ภายในระยะเวลา 180 วัน) และธนาคารกรุงไทย (ไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด) ทั้งนี้ หากต้องใช้ใบสำคัญการหย่าในการลงทะเบียน ผู้ลงทะเบียนจะต้องนำใบสำคัญการหย่าหรือเอกสารอื่นใดที่คณะกรรมการ ฯ กำหนด มาแสดงให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติ
นายอนุชา กล่าวว่า แนวทางการดำเนินการนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาสำหรับประชาชนที่มีความประสงค์จะลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ฯ ปี 2565 แต่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสเพื่อลงนามในแบบฟอร์มการลงทะเบียนได้ โดยอาจมีหลายสาเหตุ เช่น ถูกทิ้งร้าง แยกกันอยู่กับคู่สมรส อยู่ระหว่างการดำเนินการหย่า เป็นต้น ทั้งนี้ โครงการฯ จะปิดการลงทะเบียนในวันที่ 19 ตุลาคม 2565
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ต.ค. 65)
Tags: บัตรสวัสดิการรัฐ, ประชุมครม., มติคณะรัฐมนตรี, อนุชา บูรพชัยศรี