นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เงินติดล้อ (TIDLOR) เปิดเผยว่า จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ จักรยานยนต์ เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา โดยมีสาระสำคัญของร่างฯ คือการกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไม่เกิน 23% ต่อปี สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ (รถมือหนึ่ง) ไม่เกิน 10% ต่อปี และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้ว (รถมือสอง) ไม่เกิน 15% ต่อปี บริษัทฯ มั่นใจว่า การควบคุมสัญญาสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ จักรยานยนต์ของ สคบ.ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหลักของเงินติดล้อ เนื่องจากเน้นการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่มีหลักประกันเป็นรายได้หลัก และยังคงมุ่งเน้นขยายพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่มีหลักประกันต่อไป
ขณะที่ภาพรวมการดำเนินธุรกิจไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มั่นใจว่าธุรกิจด้านสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจะมีอัตราเติบโตดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ จากการวางกลยุทธ์ขยายธุรกิจด้วยการนำนวัตกรรม “บัตรติดล้อ” เข้ามาอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อ ในการกดเงินสดตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติจากตู้เอทีเอ็มธนาคารพาณิชยชั้นนำกว่า 50,000 แห่งทั่วประเทศ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง การขยายสาขาของเงินติดล้ออย่างต่อเนื่อง รวมถึงการวางกลยุทธ์ขยายพอร์ตสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับใช้ประกอบกิจการหรือเพิ่มสภาพคล่อง
“เรามั่นใจจะสามารถขยายพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถในปีนี้เติบโต 23-28% ตามเป้าหมาย และได้วางแผนรับมืออัตราดอกเบี้ยขาขึ้นและเสริมศักยภาพด้านเงินทุนในการดำเนินธุรกิจ โดยในเดือนกันยายนที่ผ่านมาได้เสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ รวมมูลค่า 6,500 ล้านบาท แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ และได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งกำหนดจ่ายผลตอบแทนเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถควบคุมต้นทุนอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว” นายปิยะศักดิ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ย. 65)
Tags: TIDLOR, ปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล, หุ้นไทย, เงินติดล้อ